ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) ยืนยันพบการตายที่เกี่ยวข้องกับเชื้อ E. coli O104:H4 ในสหรัฐฯเป็นครั้งแรก หลังจากผู้ตายเดินทางไปเยอรมนี ขณะนี้ทาง CDC กำลังสืบหาความจริงว่าการตายดังกล่าวในเดือนมิถุนายนเกี่ยวข้องกับการระบาดของเชื้อ E. coli ในยุโรปหรือไม่
จากการตรวจสอบหาความจริงครั้งล่าสุด CDC เปิดเผยว่าการระบาดของเชื้อ E. coli ที่เกิดจากถั่วงอกในยุโรปทำให้มีประชาชนสหรัฐฯ ล้มป่วย 6 ราย โดยผู้ป่วย 5 คนได้รับเชื้อโรคในเยอรมนี ขณะที่ผู้ป่วยอีก 1 รายได้รับเชื้อโรคติดต่อจากผู้ป่วยรายหนึ่งในรัฐมิชิแกน นอกเหนือจากการล้มป่วยจากเชื้อ E. coli ในรัฐแอริโซนา และมิชิแกนแล้ว ยังมีการรายงานการล้มป่วยรัฐแมสซาชูเสทส์ วิสเคาซิน และ นอร์ธ แคโรไลนาอีกด้วย
ทั้งนี้ 1 ในผู้ป่วย 5 คนคือชายที่เสียชีวิตจากรัฐแอริโซนา โดยมีอาการไตวายแทรกซ้อนอย่างรุนแรง เรียกว่ากลุ่มอาการเม็ดเลือดแดงแตกและไตวาย (HUS)
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหภาพยุโรปกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดการระบาดของเชื้อ E. coli O104:H4 น่าจะมาจากล็อตสินค้าเมล็ดฟีนูกรีกของอียิปต์ล็อตหนึ่งที่ยุโรปนำเข้ามา และนำมาใช้ปลูกถั่วงอกที่บริโภคในเยอรมนีและฝรั่งเศส ขณะนี้สหภาพยุโรปมีคำสั่งให้เรียกคืนเมล็ดฟีนูกรีกและระงับการนำเข้าเป็นการชั่วคราว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ CDC เปิดเผยว่า เมล็ดฟีนูกรีกทุกล็อตที่มาจากผู้ส่งออกที่แสดงตัวจะถูกต้องสงสัยว่าปนเปื้อน E.coli ไว้ก่อน เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรงแม้ว่าสินค้าดังกล่าวปนเปื้อนในปริมาณน้อยก็ตาม และเนื่องจากมีข้อมูลที่ปรากฎเกี่ยวกับแหล่งที่มาและสาเหตุทำให้เกิดการปนเปื้อนและการระบาดข้ามสายพันธุ์
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2554 ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหภาพยุโรปเปิดเผยว่าการระบาดของเชื้อ E. coli ลดลง โดยอธิบายว่าสหภาพยุโรปมีการปรับตัวเลขโดยนับเพียงการเกิดการระบาดของโรคที่ได้รับการยืนยันแล้วหรือกรณีที่อาจเป็นการระบาดเท่านั้น จากรายงานของ WHO ที่ปรับปรุงใหม่สรุปมีผู้ล้มป่วยจาก E. coli 3,491 ราย และเสียชีวิต 52 รายในสหภาพยุโรป 12 ประเทศ และในอเมริกาเหนือ 1 ประเทศ
