สมาคมทำสวนของสหรัฐฯ เปิดเผยว่าชาวอเมริกันราว 43 ล้านครัวเรือนมีแผนจะปลูกผักผลไม้ไว้กินเองในปี 2552 เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ถึง 19% โดยยอดจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับการปลูกพืชผักอยู่ที่ปีละ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (9.1 หมื่นล้านบาท) โดยมีสาเหตุมาจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาและความใส่ใจในเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น
แอน แจนดาวัย 43 ปีกล่าวว่าครอบครัวของเธอประหยัดค่าผักผลไม้ไปได้เดือนละ 75 ดอลลาร์สหรัฐ (2,283 บาท) โดยเฉลี่ยประมาณ 8 เดือนต่อปี หลังจากปลูกพืชผักเพื่อบริโภคเองอย่างสม่ำเสมอในสวนขนาด 5 x 15 เมตร ในช่วงที่มีผลผลิตเยอะ เธอจะแช่หรือดองไว้ใช้ในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ร่วง เช่น ถั่วแช่แข็ง กะหล่ำปลีดอง อีกทั้งยังสามารถกักตุนมะเขือเทศได้เป็นจำนวนมากและนำมาใช้ทำซอสมะเขือเทศเองได้ด้วย
นอกจากนอกนี้ หลักสูตรสอนปลูกพืชผักกำลังเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง โดยในรัฐนอร์ท แคโรไลนามีตัวเลขนักเรียนเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวเมื่อเทียบกับห้าปีก่อน อัล คุกส์เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ส่งเสริมงานเกษตรและสหกรณ์แห่งหนึ่งในรัฐแคโรไลนากล่าวว่า จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในชั้นเรียนเกี่ยวกับอาหาร โดยมีคนสนใจมากขึ้นจนสามารถเปิดหลักสูตรที่เฉพาะเจาะจงขึ้น