ประธานาธิบดีหม่า อิงจิว และนายกรัฐมนตรีอู๋ ตุนอี้ แห่งไต้หวัน เป็นประธานในการเผาทำลายอาหารปนเปื้อนสารประกอบพลาสติกปริมาณกว่า 12 ตัน ที่โรงงานทำลายขยะในเมืองฉางฮัว นอกจากนี้ ยังมีการทำลายอาหารปนเปื้อนอีก 18 ตัน ตามโรงงานทำลายขณะต่างๆทั่วเกาะไต้หวัน หลังจากที่การทดสอบตัวอย่างผลิตภัณฑ์ พบว่าในอาหารมีสาร DEHP ที่เป็นส่วนประกอบที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตพลาสติก เพื่อช่วยให้พลาสติกมีความยืดหยุ่น ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง
รัฐบาลไต้หวันเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการปนเปื้อนในอาหารมากขึ้น หลังเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อแบคทีเรียอีโคไลในทวีปยุโรป โดยรัฐสภาไต้หวัน เพิ่งผ่านกฎหมายด้านความปลอดภัยอาหารฉบับใหม่ ที่เพิ่มบทลงโทษผู้ประกอบการที่ละเมิดกฏ เป็นโทษปรับระหว่าง 300,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (10,500 ดอลลาร์สหรัฐ) ถึง 6 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (209,000 ดอลลาร์สหรัฐ)และอาจถูกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจอีกด้วย
ทั้งนี้ เฉพาะในเดือนมิถุนายน มีการตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหารไปแล้ว 23,435 รายการจาก 2,043 บริษัท