เกาหลีใต้แสดงความยินดีที่รัฐสภาให้สัตยาบันข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) กับสหภาพยุโรปแล้ว โดยระบุว่าจะเอื้อให้บริษัทเกาหลีใต้เข้าถึงตลาดใหญ่ที่สุดในโลกได้มากขึ้น
พรรคฝ่ายค้านเกาหลีใต้ขอให้เลื่อนการให้สัตยาบันโดยอ้างว่า จะต้องมีมาตรการพิเศษปกป้องอุตสาหกรรมท้องถิ่นและเกษตรกร แต่พรรคแกรนด์เนชันปาร์ตี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลสามารถผลักดันให้ผ่านสภาได้เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2554
กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ แถลงว่า FTA ที่จะมีผลตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2554 จะช่วยให้เกาหลีใต้มีฐานะได้เปรียบในสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นคู่ค้าสำคัญของเกาหลีใต้ อีกทั้งจะเอื้อต่อการกระชับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน
ด้านนายคาเรล เดอ กุชท์ กรรมาธิการการค้าสหภาพยุโรป กล่าวว่า FTA นี้จะสร้างการเติบโต สร้างงาน เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค ส่งเสริมการส่งออก ความสามารถในการแข่งขันและการลงทุนของทั้งสองฝ่าย เป็น FTA มาตรฐานที่สหภาพยุโรปหวังจะบรรลุกับคู่ค้าสำคัญอื่น ๆ
สถาบันเกาหลีเพื่อนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศเคยประเมินไว้ว่า ในระยะยาว FTA นี้จะทำให้การส่งออกของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 330,000 ล้านบาท) ต่อปี ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 และสร้างงานใหม่ 253,000 ตำแหน่ง ทั้งสองฝ่ายตกลงจะลดภาษีศุลกากรลง 98% ภายใน 5 ปี ในจำนวนนี้ครอบคลุมสินค้าเกษตรเกาหลีใต้เพียงจำนวนหนึ่ง ขณะที่สหภาพยุโรปสามารถระงับการลดภาษีศุลกากรหากสินค้าจากเกาหลีใต้ทะลักเข้าตลาด