ราคาอาหารพุ่งเขย่าโลก

               นายโรเบิร์ต โซลลิค ประธานธนาคารโลก (เวิลด์ แบงก์) กล่าวว่า ราคาอาหารในตลาดโลกได้พุ่งขึ้นสู่ระดับที่เป็นอันตรายแล้ว และกล่าวเตือนว่าภาวะนี้อาจสร้างความยุ่งยากให้แก่ สถานการณ์ทางการเมืองและสังคมที่เปราะบาง ในภูมิภาคตะวันออกกลางและเอเชียกลาง
               ธนาคารโลกเปิดเผยข้อมูลระบุว่า การพุ่งขึ้นของราคาอาหารส่งผลให้ประชากร   44   ล้านคน ในประเทศกำลังพัฒนาตกอยู่ในสถานะยากจนอย่างรุนแรง นับตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2553 เป็นต้นมา โดยการทะยานขึ้นของราคาอาหารในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นการปรับตัวขึ้นของราคาข้าวสาลี ข้าวโพด น้ำตาล และน้ำมันปรุงอาหาร
 นายโซลลิคยังกล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ากังวลที่ราคาข้าวโพดพุ่งขึ้นมาแล้ว 73% ในเวลา 6 เดือน ในขณะที่ราคาน้ำตาลทะยานขึ้น 20% ในไตรมาสล่าสุด และราคาน้ำมันปรุงอาหารพุ่งขึ้น 22% ในไตรมาสล่าสุด ขณะที่ประเทศบุรุนดีและแคเมอรูน ในทวีปแอฟริกากำลังเผชิญปัญหาจากราคาถั่วที่พุ่งขึ้นกว่า 40% โดยถั่วเป็นอาหารสำคัญในสองประเทศนี้ และธนาคารโลกยังเตือนว่า จำเป็นต้องมีการสอดส่องดูแลราคาข้าว เพราะว่าบางประเทศเพิ่มปริมาณการนำเข้าข้าวให้สูงขึ้นมากเพื่อปรับเพิ่มสต๊อกข้าวคงคลังภายในประเทศ  
              ทั้งนี้ ผลสำรวจระบุว่า คนจนใช้เงินกว่า 80% ของรายได้สุทธิของตนเอง ในการซื้ออาหารหลัก และถ้าหากราคาอาหารเพิ่มขึ้น พวกเขาก็แทบไม่มีทางเลือก นอกจากต้องกินอาหารให้น้อยลง