6 กุมภาพันธ์ 2554 4809 ครั้ง
การส่งออกของไทยไปจีนในเดือนธันวาคม 2553 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้จีนทะยานขึ้นเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับหนึ่งของไทยเหนือสหรัฐฯ ที่เคยครองอันดับหนึ่งมาอย่างยาวนาน ด้วยสัดส่วนประมาณ 11% ของมูลค่าการส่งออกของไทยโดยรวม มีมูลค่าการส่งออกทั้งปี แตะระดับ 2.15 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับแนวโน้มการส่งออกของไทยไปจีนในปี 54 น่าจะยังคงเติบโตได้ในแดนบวก แม้ว่าอัตราการเพิ่มขึ้นอาจไม่ร้อนแรงเท่าปี 53 เนื่องจากผลของฐานเปรียบเทียบที่สูงขึ้น แต่เมื่อพิจารณาด้วยมูลค่าแล้วน่าจะยังอยู่ในระดับสูงจากผลของความต้องการสั่งซื้อที่ยังคงดำเนินต่อไป ทั้งเพื่อการบริโภคภายในประเทศของจีนเองที่น่าจะยังขับเคลื่อนได้
อย่างไรก็ตาม ผลจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดรวมไปถึงอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทยอยแข็งค่าขึ้นในอนาคตจากแรงกดดันของอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นอาจมีผลให้เกิดการชะลอของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2554ได้
ทั้งนี้ ประเมินว่าอัตราการเติบโตของการส่งออกไทยไปจีนในปีนี้ จะอยู่ที่ระดับ 10-15% ชะลอตัวลงจาก 33.2% ในปี 53 โดยคาดว่าการค้าผ่านแดนระหว่างไทยกับจีนตอนใต้น่าจะก้าวขึ้นมามีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ จากนโยบายวางตำแหน่งของจีนให้เป็นประตูหน้าด่านสู่อาเซียน และระบบการขนส่งทางบกระหว่างไทย-จีนก็มีความสะดวกมากขึ้น
แต่ในทางปฏิบัติกลับพบว่าการติดต่อค้าขายระหว่างไทยกับมณฑลต่างๆ ของจีนยังคงมีปัญหาและอุปสรรคอยู่บ้าง ทั้งในเชิงโครงสร้างของตลาดที่มีความเป็นท้องถิ่นนิยมหรือชาตินิยม มีความต้องการที่ค่อนข้างแตกต่างกัน อุปสรรคทางด้านภาษา ปัญหาช่องทางการจำหน่ายสินค้า ถูกควบคุมโดยทุนท้องถิ่น รวมไปถึงอุปสรรคทางด้านกฎระเบียบที่มีด้วยกันหลายระดับ
ดังนั้น การติดต่อค้าขายกับประเทศจีนผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับตลาดจีน และควรเน้นขายสินค้าด้วยการชูความแตกต่างของสินค้าไทยจากสินค้าจีนเป็นจุดขาย ซึ่งแยกได้เป็น 2 ลักษณะ คือความแตกต่างด้านธรรมชาติ และความแตกต่างที่เกิดจากคนทำขึ้น