TH EN
A A A

อีร์รีชี้ ภัยธรรมชาติ ดันราคาข้าวโลกพุ่ง

2 พฤศจิกายน 2553   
อีร์รี เตือนภัยธรรมชาติทำลายแหล่งปลูกข้าวสาลีใหญ่ของโลก ฉุดราคาข้าวเจ้าตลาดโลกผันผวนหนัก คาดปีหน้าไทยเจอศึกหนัก น้ำท่วมพื้นที่ปลูกเสียหาย เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2553 คณะผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศ (อีร์รี) รายงานว่า ความเสียหายที่เกิดกับพื้นที่ปลูกข้าวสาลีสำคัญๆ ทั่วโลกกำลังจุดชนวนทำให้ราคาข้าวโลกช่วง 2-3 เดือนข้างหน้าผันผวน ประกอบกับแหล่งปลูกข้าวใหญ่ๆ ในปากีสถาน ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ตลอดจนปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมหนักในจีน ทำให้ผลผลิตข้าวในพื้นที่เพาะปลูกข้าวสำคัญๆ ของภูมิภาคเอเชีย ลดลงแล้วประมาณ 5-10% ในปี2553 บทความในนิตยสารรายไตรมาสของอีร์รี ที่มีชื่อว่า "ไรซ์ ทูเดย์" ระบุว่า เมื่อมองในภาพรวม ปริมาณข้าวทั่วโลกกำลังอยู่ในภาวะตึงตัว แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายเท่ากับสถานการณ์ในภูมิภาคที่เป็นแหล่งปลูกข้าวสาลีสำคัญๆ ของโลก ทำให้ไม่สามารถประเมินปริมาณข้าวที่หมุนเวียนอยู่ในแต่ละประเทศของโลกได้ ด้วยเหตุนี้ ราคาข้าวจึงมีความผันผวนมากในช่วง 2-3 เดือนนับจากนี้ไป ทั้งนี้ ราคาข้าวสาลีทะยานสูงสุดในรอบ 2 ปี ในช่วงเดือนสิงหาคมเมื่อรัสเซียสั่งห้ามส่งออกข้าวสาลีเป็นการชั่วคราวในปีนี้ หลังจากเกิดสถานการณ์แล้งทั่วประเทศรวมทั้งไฟป่า ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทำให้ผลผลิตข้าวสาลีรายปีของรัสเซียลดลงกว่า 30% นอกจากนี้คาซัคสถาน และยูเครน และแคนาดาก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภัยธรรมชาติเช่นกัน โดยกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ผลผลิตข้าวสาลีทั่วโลกในฤดูเก็บเกี่ยวปี 2553-2554 จะร่วงลง 5.44% จากปีก่อนหน้านี้ เหลือเพียง 643 ล้านตัน นายประเสริฐ โกศัลวิตร อธิบดีกรมการข้าวกล่าวว่า ราคาข้าวจะทะยานขึ้นเนื่องจากปริมาณข้าวมีจำกัดหลังจากพื้นที่ปลูกข้าวในเอเชีย ซึ่งมีฐานะเป็นทั้งผู้ซื้อข้าวรายใหญ่สุดของโลก และผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่สุดของโลก ได้รับความเสียหายจากพายุและอุทกภัยรุนแรง ทั้งนี้ คาดว่าผลผลิตข้าวจะลดลงประมาณ 6-8 แสนตันข้าวเปลือก จากที่คาดไว้ 29 ล้านตันข้าวเปลือก ซึ่งต้องรอดูสถานการณ์หลังน้ำลดอีกครั้ง แต่ปริมาณข้าวที่ลดลงจะไม่กระทบกับการส่งออก ส่วนราคาจะสูงขึ้น เพราะผลิตธัญพืชของโลกได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น รัสเซีย อินเดีย ห้ามส่งออกแล้ว ขณะที่เวียดนามทำสัญญาขายข้าวให้กับอินโดนีเซียล่วงหน้า ปัจจุบันยังไม่มีข้าวที่จะส่งมอบ เพราะผลผลิตข้าวได้รับความเสียหายจากพายุ ทำให้คาดว่าอินโดนีเซียอาจจะหันมาซื้อข้าวนาปีของไทยในช่วงต้นปีหน้าเพื่อเก็บสต็อก ส่งผลให้ราคาข้าวในประเทศสูงขึ้น ขณะที่นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า ภัยน้ำท่วมทำให้ข้าวได้รับผลกระทบมากสุด ซึ่งผลผลิตข้าวนาปี 2553/2554 มีความเป็นไปได้ที่จะหายไปประมาณ 1 ล้านตันข้าวเปลือก จากที่ประมาณการไว้ 22.89 ล้านตัน โดยรายงานเบื้องต้นพบว่า ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกข้าวเสียหาย 4 ล้านไร่ ทำให้ผลผลิตหายไปประมาณ 4-5 แสนตันข้าวเปลือก และแม้ผลผลิตจะลดลงมากถึง 1 ล้านตัน แต่ยังหวังว่าข้าวนาปรังจะได้ผลิตเต็มที่ และผลักดันให้ผลผลิตข้าวปี 2554 มีประมาณ 28 ล้านตันข้าวเปลือก ลดลงจากที่คาดไว้ 29 ล้านตันข้าวเปลือก เมื่อรวมกับข้าวในสต็อกรัฐบาล 2-3 ล้านตัน คาดว่าจะไม่กระทบกับการบริโภคในประเทศ และการส่งออก จะยังทำได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 8 ล้านตันข้าวสาร ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

บทความนี้มีประโยน์หรือไม่?