สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)
mobiletoggle
Search
Search
ค้นหาข่าวเตือนภัย
ค้นหา
Search
Search
ประเภทของข่าว
เลือกทั้งหมด
ประชาสัมพันธ์การอบรมสัมมนาและข่าวสารราชการ
ข้อกำหนดสารกำจัดศัตรูพืช ยาสัตว์ และสารปฏิชีวนะ
มาตรฐานการผลิตและระบบคุณภาพ
การแจ้งเตือนกักกัน ระงับนำเข้า และสินค้าผิดกฎหมาย
โรคระบาดสัตว์ การปนเปื้อนเชื้อก่อโรค และปลอมปน
ประชาคมเศรษฐกิจ การเปิดตลาด และการค้าเสรี
สถานการณ์การค้า และดัชนีซื้อขายสินค้าเกษตร
สินค้า/ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบ
สินค้าปศุสัตว์อื่นๆ
แมลง
สุกร
โค
สัตว์ปีก (ไก่ เป็ด และอื่นๆ)
สินค้าพืชอื่นๆ (เส้นใย ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ฯลฯ)
พืช-เมล็ดสกัดน้ำมัน และผลิตภัณฑ์
ธัญพืช ข้าว พืชที่ให้แป้ง/น้ำตาล
ผัก ผลไม้ และผลิตภัณฑ์แปรรูป
สินค้าประมงอื่นๆ
หมึก-หอย (มอลลัสก์) และผลิตภัณฑ์
กุ้ง-ปู (ครัสเตเชียน) และผลิตภัณฑ์
ปลา และผลิตภัณฑ์
ซุปและเครื่องดื่มอื่นๆ นอกเหนือจากน้ำผัก-ผลไม้
ผลิตภัณฑ์คอมโพสิท (อาหารที่มีหลายส่วนผสม)
ผลิตภัณฑ์นมและแปรรูปจากนม
ขนมหวานและไอซ์คอนเฟคชันนารี
เบเกอรีและผลิตภัณฑ์ขนมอบ
อาหารตามหลักศาสนา
อาหารทางการแพทย์และผู้ป่วยโภชนาการเฉพาะ
อาหารทารกและเด็กเล็ก
วัตถุเจือปนอาหารอื่นๆ
เกลือ เครื่องเทศ และผงชูรส
สีผสมอาหาร
น้ำตาลและสารให้ความหวานอื่นๆ
บรรจุภัณฑ์ประเภทอื่นๆ
บรรจุภัณฑ์และเครื่องใช้ที่เป็นพลาสติก
ฉลากสินค้า
ประเทศ
แองโกลา
บูร์กินาฟาโซ
บุรุนดี
เบนิน
บอตสวานา
สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
สาธารณรัฐแอฟริกากลาง
สาธารณรัฐคองโก
ไอวอรี่โคสต์
แคเมอรูน
เคปเวิร์ด
จิบูตี
แอลจีเรีย
อียิปต์
ซาฮาร่าตะวันตก
เอริเทรี
สาธารณรัฐเอธิโอเปีย
กาบอง
กานา
แกมเบีย
กินี
อิเควทอเรียลกินี
กินีบิสเซา
เคนย่า
คอโมโรส
ไลบีเรีย
เลโซโท
ลิบยา
โมร็อกโก
มาดากัสการ์
มาลี
มอริเตเนีย
มอริเชียส
มาลาวี
โมซัมบิก
นามิเบีย
ไนเจอร์
ไนจีเรีย
เรอูนียง
รวันดา
เซเชลส์
ซูดาน
เซนต์เฮเลนา
เซียร์ราลีโอน
เซเนกัล
โซมาเลีย
ซูดานใต้
เซาตูเมและปรินซีปี
สวาซิแลนด์
ชาด
โตโก
ตูนิเซีย
แทนซาเนีย
ยูกันดา
มายอต
แอฟริกาใต้
แซมเบีย
ซิมบับเว
แอนตาร์กติกา
เกาะบูเว็ต
หมู่เกาะเซาท์จอร์เจียและหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช
เกาะเฮิร์ดและหมู่เกาะแมคโดนัลด์
เฟรนช์เซาเทิร์นและแอนตาร์กติกแลนดส์
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
อัฟกานิสถาน
อาร์เมเนีย
อาเซอร์ไบจาน
บังคลาเทศ
บาห์เรน
บรูไน
ภูฏาน
เกาะโคโคส [คีลิง]
จีน
เกาะคริสต์มาส
จอร์เจีย
ฮ่องกง
อินโดนีเซีย
อิสราเอล
อินเดีย
ดินแดนบริติชอินเดียนโอเชี่ยน
อิรัก
อิหร่าน
จอร์แดน
ญี่ปุ่น
คีร์กีสถาน
กัมพูชา
เกาหลีเหนือ
เกาหลีใต้
คูเวต
คาซัคสถาน
ลาว
เลบานอน
ศรีลังกา
พม่า
มองโกเลีย
มาเก๊า
มัลดีฟส์
มาเลเซีย
เนปาล
โอมาน
ฟิลิปปินส์
ปากีสถาน
ปาเลสไตน์
กาตาร์
ซาอุดิอาราเบีย
สิงคโปร์
ซีเรีย
ไทย
ทาจิกิสถาน
เติร์กเมนิสถาน
ตุรกี
ไต้หวัน
อุซเบกิ
เวียดนาม
เยเมน
อันดอร์รา
แอลเบเนีย
ออสเตรีย
แลน
บอสเนียและเฮอร์เซโก
เบลเยียม
บัลแกเรีย
เบลารุส
สวิสเซอร์แลนด์
ไซปรัส
เช็ก
เยอรมัน
เดนมาร์ก
เอสโตเนีย
สเปน
ฟินแลนด์
หมู่เกาะแฟโร
ฝรั่งเศส
อังกฤษ
เกิร์นซีย์
ยิบรอลตา
เวลส์
โครเอเชีย
ฮังการี
ไอร์แลนด์
เกาะแมน
ไอซ์แลนด์
อิตาลี
นิวเจอร์ซีย์
ลิกเตนสไตน์
ลิธัวเนีย
ลักเซมเบิร์ก
ลัตเวีย
โมนาโก
มอลโดวา
มอนเตเนโก
มาซิโดเนีย
มอลตา
เนเธอร์แลนด์
นอร์เวย์
โปแลนด์
โปรตุเกส
โรมาเนีย
เซอร์เบีย
รัสเซีย
สวีเดน
สโลวีเนีย
สฟาลบาร์และยานไมเอน
สโลวะเกีย
ซานมาริโน
ยูเครน
วาติกัน
โคโซโว
แอนติกาและบาร์บูดา
แองกวิลลา
อารูบา
บาร์เบโดส
เซนต์บาร์เธเลมี
เบอร์มิวดา
โบแนร์
บาฮามาส
เบลีซ
แคนาดา
คอสตาริกา
คิวบา
คูราเซา
โดมินิกา
สาธารณรัฐโดมินิกัน
เกรเนดา
เกาะกรีนแลนด์
กัวเดอลุป
กัวเตมาลา
ฮอนดูรัส
ไฮติ
จาเมกา
เซนต์คิตส์และเนวิส
หมู่เกาะเคย์เเมน
เซนต์ลูเซีย
เซนต์มาร์ติน
มาร์ตินีก
มอนต์เซอร์รัต
เม็กซิโก
นิการากัว
ปานามา
เซนต์ปิแอร์และมีเกอลง
เปอร์โตริโก้
เอลซัลวาดอร์
ซินต์มาร์เติน
หมู่เกาะเติกส์และเคคอส
ตรินิแดดและโตเบโก
สหรัฐอเมริกา
เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์
หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน
หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา
อเมริกันซามัว
ออสเตรเลีย
หมู่เกาะคุก
ฟิจิ
ไมโครนีเซีย
กวม
คิริบาส
หมู่เกาะมาร์แชลล์
หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา
นิวแคลิโดเนีย
เกาะนอร์ฟอล์ก
นาอูรู
นีอูเอ
นิวซีแลนด์
เฟรนช์โปลินีเซีย
ปาปัวนิวกินี
หมู่เกาะพิตแคร์น
ปาเลา
หมู่เกาะโซโลมอน
โตเกเลา
ติมอร์ตะวันออก
ตองงา
ตูวาลู
เกาะนอกรีตของสหรัฐฯ
วานูอาตู
วาลลิสและฟุตูนา
ซามัว
อาร์เจนตินา
โบลิเวีย
บราซิล
ชิลี
โคลอมเบีย
เอกวาดอร์
หมู่เกาะฟอล์คแลนด์
เฟรนช์เกีย
กายอานา
เปรู
ปารากวัย
ซูรินาเม
อุรุกวัย
เวเนซุเอลา
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
TH
EN
A
A
A
หน้าหลัก
ข่าวเตือนภัย
บทความและงานวิจัย
วารสาร
สารคดีเกษตร
เสนอแนะ
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
แผนผังเว็บไซต์
หน้าหลัก
ข่าวเตือนภัย
คณะกรรมาธิการยุโรปตั้งเป้าลดคาร์บอนไดออกไซด์ใหม่สำหรับปี 2573 และ 2593
6 ตุลาคม 2553
คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มวางแผนกำหนดเป้าหมายลดคาร์บอนไดออกไซด์ใหม่สำหรับปี 2573 และ 2593 แล้ว ในขณะที่พิธีสารเกียวโตกำลังจะหมดลงในปี 2555 โดยเชื่อว่าเป้าหมายดังกล่าวจะช่วยทำให้ยุโรปสามารถแข่งขันกับอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือกที่กำลังมาแรงของจีนได้ นางคอนนี เฮเดการ์ด กรรมาธิการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวว่า คณะทำงานว่าด้วยพลังงานและคมนาคมของกรรมาธิการยุโรปกำลังพิจารณากำหนดเป้าลดคาร์บอนไดออกไซด์สำหรับปี 2573 โดยเป้าดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานที่จะนำยุโรปไปสู่การเป็นเศรษฐกิจที่ลดการพึ่งพาคาร์บอนภายในปี 2593 (คณะกรรมาธิการจะเริ่มกำหนดแผนงานนี้ราวเดือนมีนาคมปี 2554) แม้ว่าร่างกฎหมายการลดการปล่อยก๊าซฯ การใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพและการใช้พลังงานทางเลือกให้ได้ 20 % ภายในปี 2563 อันเป็นจุดยืนที่ชัดเจนของสหภาพยุโรป ภายหลังการทำความตกลงในพิธีสารเกียวโตจะผ่านความเห็นชอบจากสภายุโรปแล้ว แต่การกำหนดเป้าหมายใหม่ในขอบเขตของปี 2573 และ 2593 ก็เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาและพัฒนาขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรมและการส่งออก นอกจากนี้การขาดภาวะผู้นำในด้านดังกล่าวยังจะหมายถึงการปิดตัวลงของโรงงานมากมายและอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นในยุโรปอีกด้วย แม้จีนจะมีท่าทีไม่สนใจที่จะทำความตกลงใดๆ ในการประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรอบใหม่ที่แคนคูน (ประเทศแม็กซิโก) ซึ่งเป็นการประชุมต่อยอดจากการประชุมที่โคเปนฮาเกนในปี 2552 แต่การลงทุนในภาคพลังงานทางเลือกของจีนในปีนี้แซงหน้ายุโรปแล้ว ยุโรปเคยมีอัตราการลงทุนในด้านดังกล่าวเป็น 2 เท่าของจีนในปี 2550 และเท่ากับจีนในปี 2552 และปัจจุบันจีนเป็นเจ้าของส่วนแบ่งตลาดธุรกิจพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ร้อยละ 50 จากส่วนแบ่งตลาดทั่วโลก นางเฮเดการ์ดแถลงเพิ่มเติมว่า ในการประชุมระดับสูงรอบต่อไปที่แคนคูนปลายปีนี้ สหภาพยุโรปจะไม่ทำความตกลงผูกมัดตนเองเป็นครั้งที่สองเมื่อพิธีสารเกียวโตสิ้นสุดลงในปีพ.ศ. 2555 เพราะการกระทำดังกล่าวจะทำให้สหรัฐฯ และประเทศอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ได้รับแรงกดดันเพียงพอในการยินยอมร่วมลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในที่สุด เหตุผลอีกประการคือ ความเหลื่อมล้ำของระดับการลดการปล่อยก๊าซจริงระหว่างสหภาพยุโรปกับประเทศอื่นๆ กล่าวคือภายหลังการทำความตกลงในพิธีสารเกียวโต สหภาพยุโรปสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซฯ ลงได้ โดยปัจจุบันสหภาพยุโรปปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 14% ของการปล่อยก๊าซฯ ทั้งหมดทั่วโลก ในขณะที่ภายในอีก 10 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2563) จีนจะปล่อยก๊าซในสัดส่วน 30% ของปริมาณรวมดังกล่าว ที่มา : คณะผู้แทนไทยประจำประชาคมยุโรป
แชร์
บทความนี้มีประโยน์หรือไม่?
มีประโยชน์
ไม่มีประโยชน์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลุ่ม G7 หนุนผลิตอาหารยั่งยืน
26 เมษายน 2566
รัสเซียเตรียมพิจารณาขยายเวลาห้ามส่งออกธัญพืช
16 สิงหาคม 2553
แคลิฟอร์เนียเรียกคืนลูกอมจากอินเดีย หวั่นปนเปื้อนตะกั่ว
6 กรกฎาคม 2554
สหภาพยุโรปปรับเปลี่ยนระดับสารตกค้างสูงสุดในบลูเบอร์รีและแครนเบอร์รี
15 พฤศจิกายน 2564
รัสเซียอาจปฏิเสธการนำเข้าเนื้อสุกรจากต่างประเทศ
25 พฤษภาคม 2552
อินเดียเก็บภาษีส่งออกหัวหอม 40% หวังลดราคาขายในประเทศ
29 พฤศจิกายน 2566