สิ่งทอไทยหายใจไม่ทั่วท้องอีก! อินเดีย-ปากีห้ามส่งออกเส้นดาย

นายวิรัตน์ ตันเดชานุรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งทอ เปิดเผยว่าสถานการณ์การค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยในรอบ 7 เดือนแรกของปี 2553 มีการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มมูลค่า 4,260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีอัตราการเติบโต 16.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2552 ที่มีการส่งออกเพียง 3,665 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการเติบโตส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าสิ่งทอประเภทเส้นใยสังเคราะห์ เส้นดาย และ ผ้าผืน ขณะเดียวกันในส่วนของเครื่องนุ่งห่ม มีอัตรการเติบโต 1.8% โดยเสื้อผ้าสำเร็จรูปเติบโตเพียง 0.6% และตลาดส่งออกหลักของไทยคืออาเซียน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อุตสาหกรรมสิ่งทอไทยกำลังเผชิญกับปัญหาฝ้ายและเส้นด้ายที่ทำจากฝ้ายเริ่มขาดแคลนในตลาดโลก เพราะประเทศผู้ผลิตหลักคืออินเดียและปากีสถานจำกัดปริมาณการส่งออกฝ้ายและเส้นด้ายที่ทำจากฝ้าย เนื่องจากกระทรวงสิ่งทอของอินเดียประกาศออกควบคุมปริมาณการส่งออกจากความต้องการฝ้ายของอุตสาหกรรมสิ่งทอในประเทศที่มีการเติบโตเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งการที่โรงปั่นและสมาคมผู้ส่งออกของอินเดียได้ผ่านความเห็นชอบในข้อตกลงการลดราคาเส้นด้ายจากฝ้ายทุกขนาดเพื่อช่วยผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมทอผ้าภายในประเทศอินเดีย กรณีดังกล่าวได้ส่งผลให้ราคาขายฝ้ายในตลาดโลกได้ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 1ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์ แม้ว่าสหรัฐฯ ที่เป็นประเทศผู้ผลิตฝ้ายรายใหญ่ของโลกจะยืนยันผลผลิตและปริมาณสำรองฝ้ายของสหรัฐฯ ว่ายังมีปริมาณเพียงพอตต่อการบริโภคในประเทศและส่งออกในตลาดโลกตลอดปีนี้ แต่ก็เป็นเพียงการช่วยสกัดไม่ให้ราคาฝ้ายพุ่งสูงขึ้นไปมากกว่านี้เท่านั้น ไม่ได้ทำให้ราคาลดลงแต่อย่างใด ที่มา : ไทยรัฐ