จากการประชุม FAO/OIE เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2549 ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี คณะกรรมาธิการยุโรปได้เปิดเผยสถิติผลการสุ่มตรวจหาเชื้อไข้หวัดนกในสัตว์ปีกของสหภาพยุโรปแล้วพบว่า ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2549 เป็นต้นมา จากการสุ่มตรวจนกป่าทั้งสิ้น 60,000 ตัวตามโปรแกรมเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก พบการติดเชื้อไข้หวัดนก H5N1 ในนกป่า เป็นจำนวน 741 ตัว จาก 13 ประเทศ ได้แก่ กรีซ อิตาลี สโลวีเนีย ฮังการี ออสเตรีย เยอรมนี ฝรั่งเศส สโลวัก สวีเดน โปแลนด์ เดนมาร์ค สาธารณรัฐเช็ก และสหราชอาณาจักร
นาย Markos Kyprianou กรรมาธิการยุโรปด้านสาธารณสุขและการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า แผนงานสุ่มตรวจเชื้อไข้หวัดนกในฝูงนกป่าและสัตว์ปีกเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยป้องกันให้สหภาพยุโรปพ้นจากการระบาดของโรคไข้หวัดนกได้ เพราะจนถึงปัจจุบันสหภาพยุโรปตรวจพบเชื้อไข้หวัดนกในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกเพื่อการค้าเพียง 4 ประเทศ ได้แก่ เยอรมนี ฝรั่งเศส สวีเดน และเดนมาร์ค โดยโรคระบาดได้ถูกกำจัดและควบคุมได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที และไม่เคยมีการถ่ายทอดการระบาดจากสัตว์สู่คน
จากผลการระบาดของโรคไข้หวัดนก H5N1 ทางตอนเหนือของเมือง Bucharest ประเทศโรมาเนีย เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2549 นั้น ทำให้โรมาเนียระงับการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกและสินค้าเนื้อสัตว์ปีกไปยังกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ คณะกรรมการยุโรปด้านห่วงโซ่อาหารและสุขภาพสัตว์ได้ออกมาตรการขยายกรอบเวลาและขยายเขตพื้นที่ในการระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์ปีกจากโรมาเนียแล้วเช่นกัน
นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปได้ระบุว่า ผลจากการตรวจสอบระบบการทำงานและควบคุมด้านปศุสัตว์ของโรมาเนียก่อนที่จะมีการระบาดโรคไข้หวัดนกเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการยื่นขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่ของสหภาพยุโรปนั้น ยังคงพบว่ามีข้อบกพร่องหลายประการ และอาจส่งผลให้การเข้าร่วมเป็นสมาชิกของโรมาเนียล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้แต่เดิมคือ ในวันที่ 1 มกราคม 2550
สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตร ประจำสหภาพยุโรป กระทรวงเกษตรและสหกรณ์