TH EN
A A A

ญี่ปุ่นยังล้าหลังเกาหลีใต้ในการลงนาม FTA

9 กรกฎาคม 2553   
ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เริ่มเจรจา EPA(Economic Partnership Agreement) /FTA (Free Trade Agreement) กับสมาชิกอาเซียน และ ASEAN Partners ในเวลาใกล้เคียงกัน ขณะนี้เกาหลีใต้ลงนามและให้สัตยาบันความตกลงแล้วรวม 16 ประเทศ เทียบกับญี่ปุ่นที่ลงนามไป 11 ฉบับ ที่สำคัญเกาหลีลงนามแล้วกับอินเดีย สามารถสรุปการเจรจาเบื้องต้นกับสหภาพยุโรป อยู่ระหว่างเจรจากับ 8 ประเทศ (รวม แคนาดา นิวซีแลนด์) และมีทีท่าว่าการเจรจาเกาหลีใต้-จีน อาจเริ่มขึ้นได้ในเร็วๆ นี้ ในขณะที่การหารือระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศคู่ค้าบางประเทศหยุดชะงักลง แต่การเจรจากับอินเดียอาจจะสรุปได้ปลายปีนี้ และกับสหภาพยุโรปยังอยู่ในขั้นของการศึกษา ซึ่งสาเหตุสำคัญของความล่าช้าคือ ญี่ปุ่นยังยืนยันปฏิเสธการเปิดตลาดสินค้าเกษตร เมื่อญี่ปุ่นได้ลดภาษีสินค้าอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ อิเลคทรอนิกส์ เป็นศูนย์ไปแล้ว ความสนใจของคู่เจรจาจึงมีไม่มาก ญี่ปุ่นยังถูกวิจารณ์จากคู่ค้า เช่น สหภาพยุโรป ว่ามีกฎระเบียบและมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีจำนวนมากที่เป็นอุปสรรคต่อสินค้านำเข้า หากญี่ปุ่นยังไม่แก้ไขวิธีปฎิบัติที่เป็นอุปสรรคเหล่านี้ การเจรจา EPA/FTA ก็ไม่เกิดประโยชน์ แม้ว่าญี่ปุ่นจะแสดงให้คู่ค้าเห็นว่าการทำความตกลง EPA แบบญี่ปุ่นจะเพิ่มโอกาสของความร่วมมือและสร้างพันธมิตรธุรกิจที่กว้างกว่า เช่น เรื่อง Intellectual property right protection หรือ Personnel exchange แต่ต่างชาติก็ยังเห็นว่าการไปถึงระดับของความร่วมมือนี้ จะยิ่งใช้เวลายาวนานยิ่งขึ้น ญี่ปุ่นและเกาหลีมีความคล้ายคลึงกันในเรื่องความอ่อนไหวของการเปิดตลาดสินค้าเกษตร แต่ประธานาธิบดี Lee Myung-bak ของเกาหลีใต้ใช้อำนาจในฐานะผู้นำเร่งรัดการเจรจาเพื่อเปิดตลาดให้แก่สินค้าอุตสาหกรรมของตนเป็นการเพิ่มดีกรีการแข่งขันและสร้างแรงกดดันแก่บริษัทญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามแม้ว่ารัฐบาลพรรค DPJ ที่บริหารประเทศในปัจจุบันจะตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างพันธมิตรและการเจรจา EPA/FTA แต่ก็ยังไม่มีมาตรการชัดเจนว่าจะปฎิรูปวิธีทำงานเพื่อเดินหน้าการเจรจา โดยเฉพาะกับจีนและเกาหลีใต้ด้วยวิธีใด ปัญหาเร่งด่วนของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี Kan คือปัญหาเศรษฐกิจ และหนี้สาธารณะของรัฐบาลที่สูงกว่าประเทศพัฒนาอื่นๆ ประเด็นอื่นๆ ที่สร้างความกังวลให้นักธุรกิจ เช่น ขนาดตลาดในประเทศมีแนวโน้มลดลง ค่าเงินเยนที่แข็งขึ้น และอำนาจแข่งขันของอุตสาหกรรมญี่ปุ่นที่เริ่มสูญเสียไปในเวทีการค้าโลก ขณะที่รัฐบาลเองก็มีงานเร่งด่วนในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นและคะแนนนิยมของพรรค DPJ ซึ่งเริ่มลดลงเรื่อยๆ ที่มา : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ประจำกรุงโตเกียว

บทความนี้มีประโยน์หรือไม่?