ในปี 2553 สต็อกข้าวทั่วโลกจะมีปริมาณถึง 91.22 ล้านตัน โดยจีนและอินเดียครองสัดส่วนมากที่สุด 38.90 ล้านตัน และ 19 ล้านตันตามลำดับ ส่วนไทยมีสัดส่วน 4.79 ล้านตัน ซึ่งมากกว่าคู่แข่งสำคัญอย่างเวียดนามที่มีสัดส่วนเพียง 1.96 ล้านตัน
กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ในปี 2553 จะมีปริมารณการบริโภคข้าวในตลาดโลกเพิ่มขึ้น 1% หรือเพิ่มขึ้นเป็น 440.16 ล้านตัน จาก 437.16 ล้านตันในปี 2552 ในขณะที่ผลผลิตข้าวมีจำนวนลดลง 2% เนื่องมาจากภัยแล้งและภัยธรรมชาติ ซึ่งส่งผลประสบต่อจีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย
อนึ่ง กรมการค้าต่างประเทศประเมินในเบื้อต้นว่า ไทยมีโอกาสที่จะรักษาการส่งออกในปี 2553 มาเป็นอันดับหนึ่งเช่นเดิมโดยครองส่วนแบ่งการตลาด 29.58% ในขณะที่เวียดนามครองส่วนแบ่งการตลาด 18.09% ซึ่งปัจจัยเกื้อหนุนให้การส่งออกข้าวครึ่งปีหลังกลับมาเป็นของผู้ขายคือหากเกิดเหตุการณืไม่คาดคิด จากปรากฎการณ์ธรรมชาติ สภาวะอากาศร้อนจัด ทำให้ผลผลิตโลกลดลง ก็ย่อยทำให้มีความต้องการนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ช่วงปลายปี 2553 สต็อกข้าวของแต่ละประเทศลดลง ประเทศคู่แข่งของไทยก็ทยอยขายข้าวไปแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปีตลาด จึงเป็นโอกาสของไทยที่มีสต็อกมากกว่าคู่แข่ง