กรมประมงเร่งจดทะเบียนเรือประมงไทย เพื่อเข้าระบบ IUU ป้องกันการทำประมงที่ผิดกฎหมายแล้วกว่า 1,000 ลำ เพื่อออกใบรับรองการจับสัตว์น้ำเข้าสหภาพยุโรป ตั้งเป้าปีนี้จะรับจดไม่ต่ำกว่า 7,000 ลำ
ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ไทยส่งออกสินค้าประมงไปตลาดสหภาพยุโรปเฉลี่ยปีละ 36,000 ล้านบาท สินค้าหลักคือทูน่ากระป๋องมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นกุ้งและผลิตภัณฑ์ หมึกสดและหมึกแปรรูป ส่วนสินค้าที่จับโดยเรือประมงไทย คิดเป็นสัดส่วนเพียง 30-40% ของยอดการส่งออกทั้งหมด ทั้งนี้ สหภาพยุโรปบังคับใช้กฎระเบียบว่าด้วยการป้องกัน ต่อต้านและขจัดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย (IUU) ตั้งแต่ 1 มกราคม 2553 เป็นต้นไป ปรากฏว่ามีเรือประมงขนาดใหญ่เข้ามาจดทะเบียนกับกรมประมงเพื่อเข้าสู่ระบบ IUU กว่า 1,000 ลำ ส่วนเรือประมงรวนอุน/อวนลาก ซึ่งใช้เครื่องมือที่ทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำทางทะเลที่ผิดกฎระเบียบ IUU นั้นกรมประมงไม่รับจดจนกว่าจะเปลี่ยนอุปกรณ์การทำประมงให้ถูกต้อง
ดร.สมหญิง กล่าวเพิ่มเติมว่า อุปสรรคในการผลักดันเรือประมงไทยเข้าสู่ IUU ได้แก่
1) กลัวการถูกเรียกเก็บภาษีเนื่องจากเกรงว่ากรมประมงจะนำรายละเอียดการกรอกแบบฟอร์มที่เรียกว่า ล็อกบุ๊ก ซึ่งระบุปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้ไปให้กรมสรรพากรเพื่อเรียกเก็บภาษี ทั้งนี้ กรมประมงได้สร้างความเข้าใจว่าข้อมูลล็อกบุ๊กเป็นความลับส่วนตัวที่กรมประมงจะไม่นำไปเผยแพร่
2) เรือประมงชายฝั่งขนาดเล็กจำนวนมากยังไม่มีการจดทะเบียนเพราะในอดีตกรมเจ้าท่าไม่รับจดทะเบียนเรือที่มีความยาวต่ำกว่า 14 เมตร ดังนั้นกรมประมงจึงร่วมกับกรมเจ้าท่าจัดทำโครงการ Mobile Unit เพื่อออกให้บริการรับจดทะเบียนเรือและอาชญาบัตรทำประมง
โดยนำร่องที่จ.ชลบุรีเป็นแห่งแรก ปรากฏว่ามีเรือประมงขนาดเล็กมาใช้บริการแล้วกว่า 100 ลำ และจะขยายพื้นที่การให้บริการไปตามจังหวัดต่างๆ แถบชายฝั่งทะเล คาดว่าภายในเดือนกันยายนนี้จะมีเรือประมงขนาดเล็กเข้ามาจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 7,000 ลำ และหากเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ภายในปี 2556 จะมีเรือประมงไทยเข้าสู่ระบบได้กว่า 40,000 ลำ