TH EN
A A A

FTA อียู-เกาหลีใต้อาจส่งผลกระทบสินค้าเกษตรไทย

1 ธันวาคม 2552   
                สำนักงานพาณิชย์ฯ ณ กรุงบรัสเซลส์คาดการณ์ สินค้าเกษตรไทยอาจได้รับผลกระทบจากการเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) ระหว่างสหภาพยุโรปและเกาหลีใต้ที่ลงนามย่อเมื่อเดือนตุลาคม 2552 และจะมีผลบังคับใช้ประมาณกลางปี 2553 โดยประเมินผลกระทบของสินค้าเกษตรแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
                1. สินค้าเกษตรส่งออกไทยที่จะได้รับผลกระทบทันทีหลังความตกลงมีผลบังคับใช้ ประกอบไปด้วย อาหารปรุงแต่งจากเนื้อสัตว์และเนื้อสัตว์ปีก สับปะรดสำเร็จรูปแบบไม่มีน้ำตาล สับปะรดสำเร็จรูปแบบมีน้ำตาล ข้าวโพดหวานชนิดไม่แช่แข็ง ปลาทูน่าครีบเหลือง ข้าวโพดหวานสำเร็จรูป  หน่อไม้ไม่แช่แข็ง และผลไม้เขตร้อนชื้น เช่น ฝรั่ง มังคุด และมะม่วง เนื่องจากสหภาพยุโรปจะยกเลิกภาษีให้เกาหลีใต้ทันที ทำให้สินค้าเกษตรจากไทยที่เป็นคู่แข่งกับเกาหลีใต้จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะมีภาษีนำเข้าสูงกว่า 8-20%
                2. สินค้าเกษตรส่งออกของไทยที่จะได้รับผลกระทบหลัง FTA ระหว่างสหภาพยุโรปและเกาหลีใต้มีผลใช้บังคับ 3–5 ปี  ได้แก่
                    a. อาหารปรุงแต่งประเภทปลาทูน่าต่างๆ  ซึ่งมีอัตราภาษีนำเข้าที่ 24% โดยสหภาพยุโรปจะลดภาษีให้เกาหลีใต้ใน 5 ปี
                    b. อาหารปรุงแต่งประเภทกุ้ง หอยต่างๆ และซูริมิ ซึ่งมีอัตราภาษีนำเข้า ที่ 20% โดยสหภาพยุโรปจะลดภาษีให้เกาหลีใต้ใน 3 ปี
                    c. ปลาแช่แข็ง   ซึ่งมีอัตราภาษีนำเข้าที่ 8% โดยสหภาพยุโรปจะลดภาษีให้เกาหลีใต้ใน 3 ปี
                ทั้งนี้ ผู้ส่งออกไทยต้องเตรียมปรับตัวเพื่อให้สามารถแข่งขันกับสินค้าเกาหลีใต้ในตลาดสหภาพยุโรปได้ ซึ่งเมื่อเกาหลีใต้ได้เปรียบเรื่องภาษีนำเข้า ไทยก็คงแข่งขันด้วยราคา และคงคุณภาพสินค้าให้ดีดังเดิม เพื่อป้องกันการโดนเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (Antidumping : AD)
 
ที่มา: สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศฯ ณ กรุงบรัสเซลส์

บทความนี้มีประโยน์หรือไม่?