TH EN
A A A

สินค้าเกษตรรุ่งมันสำปะหลังราคาพุ่ง

25 พฤศจิกายน 2552   
                แนวโน้มราคามันสำปะหลังพุ่งไม่หยุด ราคาหัวมันสูงสุดในรอบ 12 ปี ปรับเพิ่มอยู่ที่ 2 บาทกว่า/ก.ก. แป้งมันราคาทะลุ 10 บาท/ก.ก. ทั้งที่ยังเป็นช่วงต้นฤดูกาล พบเพลี้ยแป้งยังระบาดหนัก หากป้องกันไม่ทันมีโอกาสที่ผลผลิตมันวูบ 70-80% เหลือไม่ถึง 10 ล้านตัน นายกสมาคมมันฯ หวั่นไทยอาจต้องนำเข้าหัวมันสด คาดราคาอาหารสัตว์ปรับเพิ่มขึ้น 10% 
 
                 ราคามันสำปะหลังปรับเพิ่มขึ้น จากสาเหตุที่ผลผลิตในประเทศมีแนวโน้มลดลงอย่างมาก ล่าสุดราคาหัวมันสดเพิ่มขึ้นเป็น 2.15 – 2.25 บาท และราคา FOB มันเม็ด และมันเส้นตันละ 170 ดอลลาร์สหรัฐฯ          นายเสรี เด่นวรลักษณ์ นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย คาดว่าผลผลิตมันสำปะหลังรอบล่าสุด จะได้รับความเสียหายจากการระบาดของเพลี้ยแป้งเพิ่มมากขึ้นถึง 25-30% เหลือเพียง 20 ล้านตัน จากเดิมที่คาดว่าผลผลิตมันสำปะหลังฤดูกาลผลิตปี 2552/2553 จะอยู่ที่ 27.7 ล้านตัน จากการสำรวจพบว่าผลผลิตบางพื้นที่อาจเสียหาย 100% ทำให้ไทยอาจต้องนำเข้าหัวมันสด โดยขณะนี้เป็นช่วงต้นฤดูกาลขุด แต่ราคาซื้อหัวมันสดเพิ่มขึ้นไปกว่า 2-2.25 บาทต่อ ก.ก. จากก่อนหน้าที่ราคา 1.50 – 1.60 บาท ถือเป็นราคาที่สูงสุดในรอบ 12 ปี 
                 หากผลผลิตเสียหายไปกว่า 25-30% จะกระทบต่อการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ซึ่งมีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 60,000-70,000 ล้านบาท โดยเป็นมันเส้นและมันเม็ดราว 4 ล้านตัน แป้งมัน 2 ล้านตัน แป้งมันใช้ในประเทศอีก 1 ล้านตัน และเอทานอลอีกบางส่วน จึงอาจต้องนำเข้าวัตถุดิบ แต่หากวัตถุดิบจากประเทศเพื่อนบ้านมีการระบาดของเพลี้ยเหมือนกัน และต้องดูว่าจะสามารถใช้มันสำปะหลังในสต็อกรัฐบาลนำมาส่งออกชดเชยความเสียหายได้หรือไม่
 
                 นายธำรงเดช อินทนิเวศน์ ที่ปรึกษามูลนิธิสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย (TTDI) กล่าวว่า สถานการณ์การจำหน่ายแป้งมันสำปะหลังเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมผงชูรสขณะนี้มีการปรับราคาสูงขึ้นตามราคาตลาดที่มีความต้องการใช้ปีละ 2 แสนตัน โดยขณะนี้ราคาซื้อล่วงหน้า 3 เดือนอยู่ที่ ก.ก.ละ 10 บาท แต่ในอดีตเคยปรับสูงถึง 12-12.50 บาทมาแล้ว 
                 ทั้งนี้ ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เริ่มปรับตัวสูง ดังนั้นโรงงานผลิตอาหารสัตว์คงจะต้องปรับตัวหันมาใช้มันสำปะหลังทดแทน แต่หากเจอปัญหามันสำปะหลังขาดแคลน คาดว่าจะทำให้ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ในปีหน้าขยับตัวสูงขึ้นไม่ต่ำกว่า 20-30% ส่งผลกระทบให้ราคาอาหารสัตว์แพงขึ้นไม่ต่ำกว่า 5-10%
 
 
 
 
 
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

บทความนี้มีประโยน์หรือไม่?