คณะกรรมการกำกับดูแลด้านธัญพืชของสหรัฐฯกล่าวว่า ทางการอินเดียอาจสั่งห้ามส่งออกข้าวโพดเป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน หลังสภาพอากาศที่แห้งแล้งสุดในรอบ 7 ปี ซึ่งส่งผลให้ผลผลิตลดลง และพื้นที่เพาะปลูกลดลงกว่า 40%
Amit Sachdev ผู้แทนจากคณะกรรมการกำกับดูแลด้านธัญพืชของสหรัฐฯประจำอินเดีย กล่าวว่า โอกาสที่ทางการอินเดียจะสั่งห้ามส่งออกข้าวโพดมีมาก หากข้าวโพดมีราคาสูงขึ้นอีก และการเพาะปลูกข้าวโพดของอินเดียได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะฝนแล้ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตแน่นอน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผลผลิตข้าวโพดจะลดลงมากน้อยแค่ไหน
ทั้งนี้ หากเกิดการระงับการส่งออกข้าวโพดอาจทำให้ผู้จัดส่งวัตถุดิบ (Supplier) ของสหรัฐฯและลาตินอเมริกาได้รับผลดี เนื่องจากจะสามารถจำหน่ายข้าวโพดได้มากขึ้น ซึ่งอาจจะช่วยหนุนราคาข้าวโพดที่ร่วงกว่า 45% ในช่วงปีที่ผ่านมา ได้เช่นกัน
อินเดียจำหน่ายข้าวโพดส่วนมากให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย โดยขณะนี้มียอดส่งออกข้าวโพดรวมอยู่ที่ 1 ล้านตัน ซึ่งเริ่มนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 หลังทางการยกเลิกการสั่งห้ามส่งออกข้าวโพด เนื่องจากราคาพุ่งสูงขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2551
ทางด้านการเพาะปลูกคำนวณเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2552 เกษตรกรอินเดียปลูกข้าวโพดเพิ่มขึ้นเป็น 6.75 ล้านเฮกตาร์ จาก 6.59 ล้านเฮกตาร์ในปีที่แล้ว ส่วนด้านราคาในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาราคาข้าวโพดในตลาดมุมไบปรับตัวสูงขึ้นถึง 20% จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าผลผลิตจะลดลงเนื่องจากสภาพอากาศแห้งแล้ง