ปริมาณการส่งออกกุ้งของอินเดียลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังสหภาพยุโรปปฏิเสธสินค้าที่ไม่ผ่านมาตรฐานของอินเดียหลายเที่ยว และได้ออก
สหภาพยุโรปเตือนอินเดียซึ่งเป็นผู้ส่งออกอาหารทะเลรายสำคัญว่า อาจห้ามนำเข้ากุ้งของอินเดียหากสินค้ายังคงไม่ผ่านมาตรฐานที่เข้มงวดของสหภาพยุโรป ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่สหภาพยุโรปที่มีมาตรฐานเข้มงวด ญี่ปุ่นและสหรัฐฯก็ได้เพิ่มการตรวจสอบสินค้าประเภทอาหารทะเลให้เข้มงวดมากขึ้นเช่นกัน
ระหว่างเดือนมกราคมจนถึงกรกฎาคมปีนี้ อินเดียถูกปฏิเสธนำเข้ากุ้งมากกว่า 50 เที่ยว โดย 20 เที่ยวเป็นการปฏิเสธของเบลเยี่ยม ส่วนที่เหลือเป็นของ อังกฤษ เยอรมัน และฝรั่งเศส ตามลำดับ เนื่องจากตรวจพบยาปฏิชีวนะ โลหะหนักตกค้าง และเชื้อโรคปนเปื้อน ในขณะที่ปี 2551 สหภาพยุโรปปฏิเสธนำเข้ากุ้งอินเดียทั้งหมด 30 เที่ยว
ผู้ส่งออกในเมือง Kochi ประเทศอินเดีย ออกมาแสดงความกังวลถึงเรื่องการถูกปฏิเสธนำเข้าของอินเดีย เนื่องจากเกรงว่าอาจทำให้อินเดียสูญเสียความสามารถในการแข่งขันกับกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งผู้ส่งออกอินเดียได้กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากความหละหลวมของผู้ตรวจสอบสินค้าส่งออกของอินเดีย
ทั้งนี้ สหภาพยุโรปได้ขอให้สภาผู้ตรวจสอบสินค้าส่งออกของอินเดีย (EIC) ออกใบรับรองเพื่อยืนยันว่าสินค้านั้นปลอดยาปฏิชีวนะในการส่งสินค้าแต่ละเที่ยวเพิ่มเติมนอกเหนือจากใบรับรองสุขภาพสัตว์ (Health certificate) นอกจากนี้ ตามระเบียบของสหภาพยุโรปจะเริ่มบังคับใช้ใบรับรองการจับสัตว์น้ำในเดือนมกราคม 2553 นี้
ในปี 2551-2552 การส่งออกของอินเดียทั้งหมด 59% เป็นการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ สร้างรายได้ 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งกุ้งแช่แข็งนับเป็น 44% ของมูลค่าดังกล่าว โดยส่งไปสหภาพยุโรป 25% หรือ 151,590 ตัน ของปริมาณส่งออกทั้งหมด 602,835 ตัน
ในไตรมาสที่สองของปีนี้ การส่งออกอาหารทะเลมีปริมาณทั้งหมด 105,812 ตัน มูลค่า 335.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 111,368 ตันที่ปริมาณ 405.41 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่ามีปริมาณและมูลค่าลดลงอันเป็นผลมาจากวิกฤตเศรษฐกิจ