องค์การน้ำตาลระหว่างประเทศของกรุงลอนดอน (ISO) กล่าวว่า ความต้องการน้ำตาลทั่วโลกในปีนี้จนถึงเดือนกันยายน 2553 อาจพุ่งสูงขึ้นกว่าน้ำตาลที่ผลิตได้ถึง 5 ล้านเมตริกตัน จึงคาดว่าจะส่งผลให้เกิดการขาดแคลนน้ำตาลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
โดยผลผลิตน้ำตาลจากบราซิลซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก ลดลงหลังพื้นที่เพาะปลูกบางส่วนถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถเพาะปลูกอ้อยได้ ในขณะที่ผลผลิตจากอินเดียซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำตาลรายใหญ่ของโลก ลดลงเพราะสภาพอากาศที่แห้งแล้งที่สุดในรอบ 83 ปี ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของความต้องการน้ำตาลส่งผลให้บริษัทผลิตขนมปังและอาหารเช้าหลายแห่งมีต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น แต่บริษัทแปรรูปน้ำตาลนั้นมีกำไรมากขึ้น
คณะกรรมการควบคุมการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าของสหรัฐฯ กล่าวว่า ปริมาณสัญญาการซื้อขายน้ำตาลสุทธิจะเพิ่มขึ้นแตะ 206,330 สัญญาในปีนี้ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปีที่แล้ว ที่ทำสถิติไว้ที่ 240,792 สัญญา