TH EN
A A A

มกอช.เตือนผู้ประกอบการ : สหรัฐเข้มฉลากประเทศแหล่งกำเนิด

22 มกราคม 2552   

               สหรัฐเตรียมการเข้มงวดการติดฉลากประเทศแหล่งกำเนิดสินค้าเกษตรบังคับใช้เต็มรูปแบบมีนาคม 2552 นี้ หลังจากเริ่มใช้กับบางสินค้าก่อนหน้านี้

               นางสาวเมทินี สุคนธรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ เปิดเผยว่า
กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกาได้ออกระเบียบสุดท้ายการติดฉลากภาคบังคับประเทศแหล่งกำเนิดสินค้าตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายเกษตร หรือ ฟาร์มบิลปี  2549  และ 2552  หรือเรียกกันว่าระเบียบ COOL  เมื่อวันที่  15 มกราคมที่ผ่านมา  โดยจะมีผลบังคับใช้เดือนมีนาคม 2552  หลังจากที่ได้ออกเป็นระเบียบชั่วคราวและทยอยบังคับใช้กับบางสินค้ามาก่อนหน้านี้ในช่วง 2-3 ปีแล้ว  ทั้งนี้ได้มีการเพิ่มเติมรายการสินค้าที่เข้ามาอยู่ระเบียบให้ครอบคลุมชนิดมากขึ้น   และมีการเตรียมการเรื่องการติดตามการปฏิบัติตามกฎหมาย  ถือเป็นการบังคับใช้การติดฉลากภาคบังคับประเทศแหล่งกำเนิดสินค้าเต็มรูปแบบ

               ระเบียบล่าสุดนี้กำหนดให้สินค้าที่มีการวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกายกเว้นในภัตตาคารต้องมีการติดฉลากระบุประเทศแหล่งกำเนิดสินค้า  ได้แก่ เนื้อวัว  แกะ  ไก่ แพะและสุกร  สินค้าประมง  สินค้าเกษตรเน่าเสียง่าย (โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักผลไม้แช่แข็งและสด) เมล็ดมะคาเดเมีย  ถั่วพีแคน  โสม และถั่วลิสง ในระเบียบจะกำหนดรายละเอียดสำหรับแต่ละสินค้า สินค้าประมงจะต้องมีการระบุเพิ่มเติมว่าเพาะเลี้ยงหรือมาจากการจับด้วย ทั้งนี้ยกเว้นสินค้าแปรรูปจากสินค้าดังกล่าวที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและเคมีแล้ว  เช่น   รมควัน  หรือ การนำไปผสมกับสินค้าอื่นๆ เช่น ใส่ซอสมะเขือเทศ  ห่อด้วยขนมปัง เป็นต้น   ไม่ต้องติดฉลากระบุประเทศแหล่งกำเนิดสินค้า ผู้ประกอบการร้านค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาและผู้จัดหาสินค้าให้ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลไว้เป็นเวลา 1 ปีเพื่อให้ตรวจสอบได้    นอกจากนี้กระทรวงเกษตรสหรัฐฯได้เตรียมการเรื่องการบังคับใช้ระเบียบนี้โดยทำความตกลงกับ 42 มลรัฐภายในสหรัฐเพื่อทำการตรวจติดตามเฝ้าระวังในระดับการค้าปลีกว่าจะ
มีการดำเนินการตามระเบียบหรือไม่ 

               ผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกสินค้าดังกล่าวไปสหรัฐอเมริกา เช่น ผักผลไม้  สินค้าประมง ควรศึกษาข้อกำหนดเหล่านี้เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าของตนเป็นไปตามข้อกำหนด  อย่างไรก็ตาม สินค้าประมงซึ่งสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกหลักตลาดหนึ่งของไทยนั้นมีการใช้ระเบียบนี้มาก่อนหน้านี้เป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว  จึงไม่น่ามี
ปัญหา
ในการดำเนินการของไทยแต่อย่างใด
       

ที่มา สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ


บทความนี้มีประโยน์หรือไม่?