อุตสาหกรรมโรงฆ่าสัตว์และชำแหละเนื้อสัตว์เพื่อการส่งออกของสหรัฐอเมริกากำลังเจอปัญหาใหญ่ เมื่อเม็กซิโกระงับคำสั่งซื้อเนื้อสัตว์ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว เนื้อแกะ หมู ไก่จากโรงงานผู้ผลิตในสหรัฐอเมริกากว่า 30 บริษัท โดยอ้างเหตุผลเรื่องความปลอดภัยด้านสุขอนามัยสัตว์ ส่วนรายชื่อธุรกิจที่ถูกแบนในครั้งนี้ มีทั้งรายเล็ก รายใหญ่ อาทิ บริษัท คาร์กิลล์ อิงก์ บริษัทไทสัน ฟู้ด อิงก์ บริษัทเจบีเอส บริษัทซีบรอด และบริษัทสมิธฟิลด์ ฟู้ด รอยเตอร์ระบุว่า ผลจากการระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์จากสหรัฐครั้งนี้ ได้สร้างความเสียหายให้กับธุรกิจโรงฆ่าสัตว์และส่งออกเนื้อสัตว์อย่างมาก และทันทีที่คำสั่งดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา ก็ทำให้ราคาสินค้ากลุ่มเนื้อวัวและเนื้อสัตว์ต่างๆ ในตลาดซีเอ็มอี (ชิคาโก เมอร์แคนไทล์ เอ็กซ์เชนจ์) ลดลง โดยราคาเนื้อวัวลดลงทันที 2-2.5% ส่วนเนื้อหมูลดลง 3%
แม้ว่าจะมีการตั้งข้อสังเกตจากคนในวงการส่งออกเนื้อสัตว์สหรัฐระบุว่า มาตรการของรัฐบาลเม็กซิโกครั้งนี้ เป็นผลจากความต้องการต่อต้านกฎหมายติดฉลากประเทศแหล่งกำเนิดสินค้าของสหรัฐฯ หรือ COOL ซึ่งหลายประเทศนำโดยแคนาดาและล่าสุดคือเม็กซิโกนำเรื่องนี้เข้าสู่การหารือกับองค์การการค้าโลก (WTO) เพื่อตรวจสอบว่า มาตรการบังคับติดฉลากนี้ขัดกับกฎระเบียบของ WTO หรือไม่
โดยเมื่อกลางเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา เม็กซิโกได้ยื่นคำร้องต่อ WTO ให้ตรวจสอบวิธีการออกคำสั่งสหรัฐ ซึ่งต้องใช้เวลาสำหรับการปรึกษาหารือ 60 วัน และน่าจะได้ข้อสรุปประมาณเดือน ก.พ.2552 ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมโรงฆ่าสัตว์และชำแหละเนื้อสัตว์ในสหรัฐฯก็ต้องหาทางส่งออกไปให้ได้
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
|
