กานต์ พันธวงศ์
ประจำเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2561
บทคัดย่อ
บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อนาเสนอผลการศึกษาความเป็นมา แนวคิด และทฤษฎีเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคฉลากอาหารที่ก่อให้เกิดการภูมิแพ้ กฎหมายฉลากอาหารที่ก่อให้เกิดการภูมิแพ้ทั้งทาการเปรียบเทียบกับกฎหมายต่างประเทศ ปัญหาและแนวทางในการแก้ไขปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมฉลากอาหารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ จากการศึกษาพบว่า ความปลอดภัยของอาหารและความเข้มงวดด้านสุขอนามัยพืชและสัตว์ถือเป็นประเด็นสาคัญ โดยแต่ละประเทศจะมีมาตรการลดความเสี่ยงภัยจากอันตรายที่มีต่อแหล่งอาหาร เพื่อการบริโภคที่แตกต่างกันไปตามสภาพพื้นฐานปัจจัยต่าง ๆ ภายในประเทศ เช่น นโยบายการตรวจตราและตรวจสอบขั้นตอนผลิตและการแปรรูปอาหาร แนวโน้มขีดความสามารถในการควบคุมภาวการณ์เกิดโรคระบาด หรือความเจ็บป่วยจากการบริโภคอาหารที่มีการปนเปื้อนจากเชื้อโรคเชื้อจุลินทรีย์สารพิษตกค้าง หรือสิ่งแปลกปลอมทางกายภาพและชีวภาพต่าง ๆ ตลอดจนลักษณะพฤติกรรมและทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อการเลือกอาหารเพื่อการบริโภค เป็นต้น
ประเทศสหรัฐอเมริกาถือเป็นประเทศคู่ค้าผลิตภัณฑ์อาหารที่สาคัญของประเทศไทยโดยให้ความสาคัญกับการจัดการโครงสร้างการออกกฎระเบียบ และมาตรการต่าง ๆ โดยการเพิ่มบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทางด้านความมั่นคงของประเทศ (Homeland Security) และหน่วยงานที่ดูแลความปลอดภัยทางด้านอาหาร และการออกกฎหมายการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบมาตรการ และขั้นตอนปฏิบัติต่าง ๆ เพิ่มเติมจากที่มีอยู่เดิม เรื่องการรักษาความปลอดภัยอาหารให้มีความเข้มงวดยิ่งขึ้น สานักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S. Food and Drug Administration: FDA) ได้ออกพระราชบัญญัติเรื่องฉลากอาหารก่อโรคภูมิแพ้และการคุ้มครองผู้บริโภคปี พ.ศ. 2547 (Food Allergen Labeling and Consumer Protection Act of 2004: FALCPA (Public Law 108-282) โดยสภานิติบัญญัติแห่งสหรัฐอเมริกาได้เห็นถึงความจาเป็นของการแจ้งข้อมูลให้แก่ผู้บริโภคได้รับทราบ จึงได้ออกพระราชบัญญัติอาหารยาและเครื่องสาอาง (The Federal Food, Drug, and Cosmetic Act of 1938: FDCA) ขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2481 โดยกาหนดให้มีการระบุเรื่องของการแสดงส่วนประกอบของอาหารบนฉลาก ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งสหรัฐอเมริกา โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองผู้บริโภคอันเกิดจากการบริโภคอาหารที่อาจะก่อให้เกิดภูมิแพ้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมฉลากอาหารที่ก่อให้เกิดภูมิย่อมส่งผลกระทบต่อการลงโทษตามกฎหมายไทย ไม่ก่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้บริโภคเท่าที่ควร ทั้งนี้เพราะยังไม่มีการบัญญัติกฎหมายเพื่อให้เป็นผลบังคับว่าด้วยอาหารภูมิแพ้ หรือเกี่ยวข้องกับเรื่องฉลากโดยเฉพาะ และประเทศไทยยังไม่ได้กาหนดให้ผู้ประกอบการต้องแสดงฉลากเกี่ยวกับอาหารก่อภูมิแพ้อย่างชัดเจน รวมทั้งบทลงโทษตามกฎหมายกับผู้ไม่ปฏิบัติตามอย่างชัดเจน รวมไปถึงมีหน่วยงานให้มีความคุ้มครองผู้บริโภคอย่างเป็นระบบเท่าที่ควร เพื่อให้มีเนื้อหาของการให้ข้อมูลสาหรับผู้บริโภคให้ครอบคลุม และสอดคล้องกับมาตรฐานสากลเกี่ยวกับเรื่องของอาหารก่อภูมิแพ้ รวมทั้งปรับแก้ไขการแสดงฉลากของวัตถุเจือปนอาหาร และประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคให้สมบูรณ์และชัดเจนมากขึ้น โดยใช้แนวทางของมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ (Codex) ในระดับสากล เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคที่มีการแพ้มีผลบังคับใช้แล้วอีกด้วย การกาหนดกฎระเบียบเกี่ยวกับการแสดงฉลากของอาหารก่อภูมิแพ้เป็นสิ่งที่สาคัญ และเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้สามารถเลือกซื้อ หรือหลีกเลี่ยงการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนผสมที่อาจทาให้เกิดการแพ้ต่อสุขภาพได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และสามารถให้ข้อมูลอาหารก่อภูมิแพ้โดยผ่านทางฉลากแก่ผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้ความเป็นธรรมอยู่ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคและสามารถบังคับใช้กฎหมายให้เกิดผลการบังคับอย่างชัดเจนต่อไป