TH EN
A A A

การปลูกเเละการดูเเลพืชผักในฤดูฝน

5 ตุลาคม 2565    ครั้ง

การปลูกเเละการดูเเลพืชผักในฤดูฝน

ประจำเดือนพฤศจิกายน 2565

               การปลูกพืชผักในฤดูฝนนั้น ในบางครั้งอาจดูเหมือนว่าสามารถทำได้ง่ายกว่าฤดูอื่นๆ เนื่องจากเป็นช่วงที่ฝนตก และไม่มีปัญหาขาดแคลนน้ำทางการเกษตร อย่างไรก็ตามปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจนเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่เพาปลูกอาจส่งผลเสีบต่อการเพาะปลูกเช่นกัน โดยปัญหาการเพาะปลูกในฤดูฝนสามารถสรุปได้ดังนี้

  • การสูญเสียธาตุอาหารเนื่องจากหน้าดินถูกน้ำฝนชะล้างและพัดพาหน้าดินออกไป
  • ในฤดูฝนท้องฟ้ามีเมฆปกคลุมเป็นจำนวนมาก ทำให้ปริมาณแสงแดดมีไม่เพียงพอต่อการสังเคราะห์แสงในพืช เป็นเหตุให้ผักหยุดชะงักการเจริญเติบโต
  • ปัญหาวัชพืชขึ้นเป็นจำนวนมากเนื่องจากปริมาณน้ำฝนและความชื้นสูง ซึ่งวัชพืชจะไปแย่งอาหารในดินจากพืชผลที่เราพะปลูก เป็นเหตุให้ผักเจริญเติบโตช้าลง ให้ฤดูฝนจึงมีการใช้ยาฆ่าหญ้าเป็นจำนวนมาก
  • ปัญหาโรครากเน่าอันเนื่องมาจากแปลงปลูกถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ซึ่งโรคพืชหลายชนิดเกิดจากเชื้อราเป็นสาเหตุหลักซึ่งสามารถขึ้นได้ง่ายในดินมีความชื้นสูง ดังนั้น โรคพืชจึงมักจะชุกชมในฤดูนี้
  • การเกิดน้ำท่วมขังเป็นเวลา 2 ถึง 3 วันขึ้นไป ทำให้รากพืชเกิดสภาวะการขาดก๊าซออกซิเจน และทำให้รากพืชตายได้ นอกจากก๊าซออกซิเจนแล้ว ยังเกิดปัญหาการขาดแคลนธาตุไนโตรเจนอีกด้วย
  • หยดน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้ต้นอ่อนและผักใบบางเกิดความเสียหายได้

พืชที่ไม่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกในฤดูฝน อาทิเช่น

  • ผักกลุ่มหัวหอม เช่น หอมหัวใหญ่ หอมแดง ร่วมถึงกระเทียม
  • ผักกลุ่มกะหล่ำ เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก บร็อคเคอรี่ ผักกาดขาว
  • ผักกินผล เช่น พริกแดง พริกชี้ฟ้า พริกหวาน มะเขือเทศ ฝักทอง
  • ผักจำพวกใบบาง เช่น ผักชี ขึ้นช่าย
  • ผักกินหัว เช่น แครอท หัวไชเท้า

การเพาะปลูกและการดูแลพืชผักในฤดูฝนมีดังนี้

  • การคลุมแปลงปลูกด้วยฟาง หญ้าแห้งหรือใบไม้แห้งเพื่อป้องกันไม่ให้วัชพืชขึ้นและลดการชะล้างหน้าดิน ป้องกันดินอัดแน่นจากแรงน้ำฝนที่ตกมากระแทกดิน และป้องกันไม่ให้รากผักได้รับความเสียหายจากน้ำฝนได้

  • การคลุมแปลงปลูกด้วยหลังคา สแลนหรือตาข่ายบาง เพื่อป้องกันไม่ให้พืชผักที่ปลูกได้รับแรงกระทบกระเทือนจากหยกน้ำฝนมากจนเกินไปนัก

  • การเลือกพืชที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตในฤดูฝน เช่น คะน้า กวางตุ้ง แตงกวา บวบ ผักกาดหอม ชะอม ผักบุ้ง ตำลึง หน่อไม้ ถั่วฝักยาว มะระ ต้นหอม และผักชี เนื่องจากผักชีมีใบที่บาง ควรคลุมแปลงปลูกด้วยหลังคาหรือสแลนเพื่อป้องกันแรงกระทบกระเทือนจากหยกน้ำฝน

  • การยกแปลงปลูกให้สูงขึ้นจะช่วยให้น้ำระบายได้ดี รวมทั้งลดปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณรากพืช

  • ในกรณีที่แปลงเกิดน้ำท่วมขัง พืชจะเกิดสภาวะขาดก๊าซออกซิเจนและธาตุอาหาร โดยเฉพาะไนโจรเจน เมื่อน้ำแห้งลง การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ปริมาณไนโตรเจนสูง เช่น ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยจากแหนแดงหรือสาหร่ายสีเขียว ปุ๋ยน้ำหรือปุ๋ยหมักจะช่วยพืชฟื้นฟูได้เร็วขึ้น

  • เพื่อป้องกันเชื้อโรคและเชื้อราที่มักเกิดขึ้นในหน้าฝน การใช้สมุนไพรรสขม รสฝาด หรือรสเผ็ด เช่น ขมิ้นชันผง ฟ้าทะลายโจรผง พริก หรืออาจจะนำกระเทียมมาตำให้แหลก แล้วนำมาแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน แล้วนำไปฉีดที่แปลงผักหลังฝนตกใหม่ๆ โดยเวลานำไปใช้ให้ผสมน้ำอีกไม่เกิน 3 ส่วนเพื่อเจือจางสักเล็กน้อย วิธีนี้ก็จะช่วยป้องกันโรคต่างๆที่จะมากับฝนได้ ตัวอย่างสมุนไพรอื่นสำหรับการจัดการศัตรูพืช

 

ที่มาข้อมูล : https://thaicityfarm.com