เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ศาลเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ได้สั่งตัดสินให้บริษัทด้านสุขภาพชื่อดังแห่งหนึ่งชดเชยความเสียหายเป็นเงินรวมกว่า 495 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 17,500 ล้านบาท) หลังพบว่าผลิตภัณฑ์นมผงสำหรับทารกคลอดก่อนกำหนด (specialized formula for premature infants) ของบริษัท มีส่วนทำให้เด็กหญิงคนหนึ่งป่วยเป็นโรค Necrotizing Enterocolitis (NEC) ซึ่งเป็นโรคลำไส้ชนิดร้ายแรงที่มีอัตราการเสียชีวิตอยู่ระหว่าง 15% ถึง 40% จากการฟ้องร้องที่กล่าวว่า “บริษัทไม่มีการแจ้งเตือนว่านมผงชนิดดังกล่าวอาจก่อให้เกิดโรค NEC ในทารกที่คลอดก่อนกำหนด”
การตัดสินดังกล่าว นับว่าเป็นการพิจารณาคดีครั้งแรกต่อบริษัทแห่งนี้ เนื่องจากมีคดีคล้าย ๆ กันซึ่งอยู่ในกระบวนการพิจารณาอีกหลายร้อยคดีทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม บริษัทดังกล่าวก็ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินและจะพยายามพลิกคำตัดสินโดยให้เหตุผลว่า “คำตัดสินนี้ขัดต่อหลักการทางวิทยาศาสตร์และความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์” และนมผงสูตรพิเศษเช่นที่ใช้ในกรณีนี้ ถือเป็นอาหารทางเลือกเพียงไม่กี่ทางที่เหมาะสำหรับทารกคลอดก่อนกำหนด รวมทั้งยังอ้างว่าอาการป่วยเรื้อรังของผู้เสียหายเกิดขึ้นตั้งแต่แรกเกิดจึงส่งผลให้สมองขาดออกซิเจน
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เคยมีการตัดสินให้บริษัทนมผงอีกแห่งชดเชยค่าเสียหายกว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐ จากคดีฟ้องร้องที่อ้างว่า “บริษัทไม่ได้เตือนแพทย์ว่าทารกที่ได้รับนมผงมีความเสี่ยงต่อภาวะ NEC มากกว่าทารกที่ได้รับนมจากแม่ (breast milk) หรือนมผงที่ทำจากนมแม่ (human milk-derived formula)” ซึ่งขณะนั้น บริษัทแห่งนี้ก็ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเช่นเดียวกัน และยังยื่นอุทธรณ์คำตัดสินโดยแย้งว่าโจทก์อาศัยคำให้การของผู้เชี่ยวชาญที่ไม่สมเหตุสมผล
ทั้งนี้ คดีความทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรค NEC เกี่ยวข้องกับนมสำหรับทารกที่เป็นนมวัว (cow's milk-based formula) และ “เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นพิเศษสำหรับทารกในโรงพยาบาล ไม่ใช่นมที่มีจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไป”
ที่มา : Reuters https://www.reuters.com/business/healthcare-pharmaceuticals/abbott-must-pay-95-million-premature-infant-formula-trial-jury-finds-2024-07-26/ สรุปโดย : มกอช