เมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริการายงานว่า อุตสหกรรมนมของอาร์เจนตินากำลังเผชิญกับความท้าทายอันเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ โดยอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของรัฐบาล ส่งผลกระทบต่อปัจจัยการผลิตนมและความสามารถแข่งขันในการส่งออก รวมถึงการบริโภคนมภายในประเทศและจะทำให้มีการปรับเปลี่ยนภาพรวมอุตสาหกรรมนมในอนาคตอันสั้น
เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมอาร์เจนตินาพึ่งพาปัจจัยการผลิตภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ (อาหารสัตว์ เครื่องจักร เชื้อเพลิง) และจากภาระต้นทุนทางด้านการเงินที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกษตรกรโคนมหลายรายต้องลดการผลิตหรือแสวงหาเงินทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งเกษตรกรโคนมหลายรายขาดทุนจากการดำเนินงาน ส่งผลต่อปริมาณการผลิตนมตั้งแต่ต้นปี 2567 ถึงปัจจุบันที่ลดลงถึง 13% อย่างไรก็ตามการผลิตนมที่ลดลง นำไปสู่การฟื้นตัวของราคานมภายในประเทศ และสนับสนุนการขยายตัวในการผลิตนมภายในครึ่งปีหลังของปี 2567
ทั้งนี้สถานการณ์ค่าเงินเปโซที่อ่อนค่าลงทำให้ผลิตภัณฑ์นมของอาร์เจนตินามีการแข่งขันในตลาดโลกมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์นมในช่วง 5 เดือนแรกหรือเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2567 เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2566 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกชีสที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 85,000 ตันในปี 2566 เป็น 100,000 ตันในปี 2567 อย่างไรก็ตามสถานการณ์เศรษฐกิจของอาร์เจนตินาทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์นมภายในประเทศสูงขึ้น และผู้บริโภคมีกำลังซื้อน้อยลง นำไปสู่การบริโภคนมภายในประเทศลดลง โดยคาดว่าจะมีการบริโภคนมในปี 2567 ที่ 1.6 ล้านตัน ลดลง 7% จากปี 2566
ที่มา : The Dairy Site สรุปโดย : มกอช.