สำนักงานมาตรฐานอาหารแห่งสหราชอาณาจักร (FSA) และหน่วยงานด้านมาตรฐานแห่งสกอตแลนด์ (FSS) เปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับปริมาณสูงสุดของเอทิลีนออกไซด์ (ethylene oxide) ในวัตถุเจือปนอาหาร ให้สอดคล้องตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป (EU) เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความปลอดภัยในอาหารและความเสมอภาคในอุตสาหกรรมและการบังคับใช้ โดยปิดรับฟังความเห็นไปแล้วเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2567
เอทิลีนออกไซด์อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและไม่อนุญาตให้ใช้ในอาหาร แต่ก็พบว่าสารดังกล่าวถูกนำไปใช้ในหลากหลายกิจกรรม รวมถึงสารฆ่าเชื้อ (sterilizing agent) และวัตถุดิบในผลิตภัณฑ์หลายชนิด เช่น เมล็ดงา เครื่องเทศ สารเพิ่มความหนืดในอาหาร (xanthan gums) ซึ่งเมื่อตรวจพบ FSA และ FSS จะสอบสวนหาสาเหตุและประเมินความเสี่ยงเป็นรายกรณี ทั้งนี้ เคยมีการตรวจพบเอทิลีนออกไซด์และ 2-cloro-ethanol ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของเอทิลีนออกไซด์ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั่วสหราชอาณาจักรและยุโรป ทำให้เมื่อเดือนกันยายน 2565 สหภาพยุโรปต้องกำหนดปริมาณสูงสุดของเอทิลีนออกไซด์ในวัตถุเจือปนอาหารไว้ที่
0.1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
FSA และ FSS กำหนดปริมาณสูงสุดของเอทิลีนออกไซด์ไว้ที่ 0.1 มก./กก. โดยหากพบในนมผงควรแจ้งให้ FSA และ FSS ทราบด้วย นอกจากนี้ ทั้งสองหน่วยงานยังจะปรับปรุงปริมาณสูงสุดของวัตถุเจือปนอาหารอื่น ๆ อีก 8 ชนิด พร้อมแนะนำให้ผู้ประกอบการวิเคราะห์สาเหตุเพื่อหาแหล่งปนเปื้อนและทำให้อาหารปลอดจากเอทิลีนออกไซด์ FSA เห็นว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยให้อุตสาหกรรมอาหารสามารถจำหน่ายสินค้าได้ทั้งในสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป ถึงแม้ว่าอาจเป็นอุปสรรคสำหรับอาหารบางชนิด และส่งผลกระทบต่อการจัดหาอาหารบางชนิดก็ตาม
นอกจากนี้ การเปิดรับฟังความเห็นของ FSA และ FSS ยังรวมถึงอาหารใหม่ (Novel food) 4 ชนิด และการขออนุญาตขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุเจือปนอาหาร (food additive) 3 ชนิด ตลอดจนแผนการยกเลิกวัตถุแต่งกลิ่นรส 22 ชนิด (food flavoring)
ที่มา : foodsafetynews.com สรุปโดย : มกอช.
