รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการทางทะเลและประมงของอินโดนีเซีย (KKP) เผยเป้าหมายของ KKP ในปี 2567 คือ การดำเนินโครงการสำคัญภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจสีน้ำเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งพัฒนาความยั่งยืนของระบบนิเวศ ตลอดจนกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาคธุรกิจทางทะเลและประมง โดยมีโครงการสำคัญ 5 โครงการ คือ 1. การขยายพื้นที่อนุรักษ์ทางทะเล 2. การจัดสรรพื้นที่และโควตาการทำประมง 3. การพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 4. การติดตามและควมคุมพื้นที่ชายฝั่งและหมู่เกาะขนาดเล็ก และ 5. การแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกในทะเลโดยการมีส่วนร่วมของชาวประมงหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียชายฝั่งทะเล ซึ่งในการจัดทำกรอบการดำเนินโครงการดังกล่าว รัฐบาลอินโดนีเซียได้ออกข้อบังคับ (PP) จำนวน 2 ฉบับ คือ ฉบับที่ 11/2023 ว่าด้วยนโยบายการจัดสรรพื้นที่และโควตาการทำประมง และฉบับที่ 26/2023 ว่าด้วยการจัดการผลิตภัณฑ์ที่ตกตะกอนในทะเล รวมทั้งมีการจัดทำกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องอีกหลายฉบับ
โดยรัฐมนตรีฯ รับรองว่าการดำเนินงานตามโครงการทั้ง 5 จะต้องมีการศึกษาวิจัยและเตรียมการวางแผนอย่างละเอียดทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากรบุคคล ซึ่ง KKP ตั้งเป้าความสำเร็จด้านผลผลิตประมงไว้ที่ 30.85 ล้านตัน มูลค่าการส่งออกสินค้าประมง 7,200 ล้านเหรียญสหรัฐ อัตราแลกเปลี่ยนสำหรับชาวประมง (The Fisherman’s Exchange: NTN) อยู่ที่ระดับ 108 และอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (Fish Cultivator’s Exchange Rate: NTPi) อยู่ที่ระดับ 105 โดยการดำเนินงานโครงการดังกล่าวจะได้รับงบสนับสนุนจำนวน 7.1 ล้านรูเปียห์ และจะมีระบบตรวจสอบภายในเพื่อให้มั่นใจว่าโครงการของ KKP สามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมาย และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชน
สามารถอ่านรายงานความเคลื่อนไหวด้านการเกษตรในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำเดือนมกราคม 2567 เพิ่มได้ที่: https://www.opsmoac.go.th/jakarta-news-preview-461991792079
ที่มา : ฝ่ายเกษตร ประจำสถานเอกอัครราชฑูต ณ กรุงจาการ์ตา สรุปโดย : มกอช.