กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ เผยว่า พบฝูงสัตว์ปีกที่ป่วยจากไข้หวัดนกน้อยลง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกและผู้บริโภคหลังจากที่มีการระบาดนานถึง 2 ปี โดยมีสาเหตุจากนกป่า
สหรัฐฯ รายงานว่า ในปี 2566 พบการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกในนกป่าประมาณ 2,600 ตัว ซึ่งน้อยกว่าปี 2565 ที่มีการแพร่ระบาดอยู่ที่ 6,000 ตัว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เตือนว่ายังคงมีความเสี่ยงในระดับสูง และเรียกร้องให้เกษตรกรเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดและปฏิบัติตามระเบียบการทำความสะอาดเพื่อปกป้องฝูงสัตว์จากการติดเชื้อในฟาร์มสัตว์ปีก ซึ่งทำให้ราคาไข่และไก่งวงพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2565 อีกทั้งยังส่งผลให้ผู้บริโภคต้องซื้อสินค้าในราคาที่แพงขึ้นเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
นกป่าเป็นพาหะนำโรคไข้หวัดนกซึ่งแพร่ระบาดจากการอพยพโดยไม่แสดงอาการ และสัตว์ปีกอาจติดเชื้อผ่านทางอุจจาระที่ปนเปื้อนหรือการสัมผัสโดยตรง อย่างไรก็ตาม นกป่าสามารถสร้างภูมิต้านทานต่อโรคนี้ได้ แต่ยังอันตรายสำหรับลูกไก่ใหม่ ๆ ที่ต้องอพยพจากรังในฤดูร้อน ซึ่งอาจมีแนวโน้มเป็นพาหะนำโรคและเป็นภัยคุกคามได้เนื่องจากยังไม่มีภูมิต้านทานต่อโรคไข้หวัดนก โดยตั้งแต่ปี 2565 สหรัฐฯ ต้องกำจัดไก่ ไก่งวง และนกอื่น ๆ ประมาณ 76.9 ล้านตัว และมากกว่า 13 ล้านตัวในเดือนธันวาคม 2566
แม้ว่าในปี 2566 จะพบสัตว์ปีกเชิงพาณิชย์ที่ป่วยเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม แต่ก็เป็นจำนวนที่ลดลงจากปี 2565 เนื่องจากจำนวนนกป่าที่ป่วยลดลง และจะลดลงอีกหากมีการควบคุมอย่างต่อเนื่อง
ที่มา : Reuters สรุปโดย : มกอช.