TH EN
A A A

ร่างกฎหมายความมั่นคงด้านอาหารของสาธารณรัฐประชาชนจีน

25 December 2566   

1. บทสรุปผู้บริหาร
                    ปัจจุบันสาธารณรัฐประชาชนจีนอยู่ระหว่างการร่างกฎหมายคุ้มครองความมั่นคงด้านอาหารของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องอุปทานธัญพืชภายในประเทศ ปกป้องความมั่นคงด้านอาหารภายในประเทศ และปกป้องเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของรัฐ 
                    กฎหมายความมั่นคงด้านอาหารของสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้คำนิยามของคำว่า “ธัญพืช” ได้แก่ ข้าวสาลี ข้าว ข้าวโพด ถั่วเหลือง ธัญพืชหยาบ (หรือ coarse grains ได้แก่ ข้าวฟ่าง บาร์เลย์ บัควีท ข้าวบาร์เลย์ไฮแลนด์ ถั่วเขียว มันฝรั่ง และมันเทศ) และธัญพืชแปรรูป นอกจากนี้ กฎหมายฉบับนี้ยังใช้คุ้มครองความมั่นคงด้านอาหารสำหรับเมล็ดพืชน้ำมันและน้ำมันเพื่อการบริโภคอีกด้วย
                    กฎหมายฉบับนี้เหมือนกับนโยบายระดับสูงฉบับอื่น ๆ ที่รัฐบาลกลางของสาธารณรัฐประชาชนจีนมอบหมายหน้าที่โดยนัยให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้ ได้แก่ หน่วยงานรัฐทุกระดับ ผู้ผลิต ผู้แปรรูป  ผู้จำหน่ายสินค้า และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น ภาคการเงินและการประกันภัย ในการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงทางอาหารในภาพรวม โดยไม่มีการระบุถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบในการดําเนินการดังกล่าว 
                    กฎหมายดังกล่าวเริ่มจากการจัดทำฉบับร่างโดยคณะกรรมการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติจีน (National Development and Reform Commission หรือ NDRC) ร่วมกับสำนักงานอาหารและปัจจัยสำรองแห่งชาติ (National Food and Strategic Reserves Administration หรือ NFSRA) เมื่อเดือนมิถุนายน 2566 เพื่อให้ คณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติ (Standing Committee of the National People's Congress หรือ NPC) เป็นผู้พิจารณา โดยได้มีการปรับปรุงและจัดทำร่างฉบับที่สองเสนอเพื่อพิจารณาอีกครั้งเมื่อตุลาคม 2566 โดยร่างกฎหมายฉบับที่สองมีการปรับแก้ตามข้อคิดเห็นของ NPC และสอดแทรกนโยบายที่สำคัญ ดังนี้
                    • ความหมายของคำว่า “ธัญพืช” ที่ใช้ในกฎหมายความมั่นคงด้านอาหาร ได้รับการแก้ไข โดยให้รวมถึง “ถั่วเหลืองแปรรูป” รวมทั้งมีการอธิบายคำว่า ธัญพืชหยาบ เพิ่มเติมว่า “ธัญพืชหยาบ ได้แก่ ข้าวฟ่าง ข้าวบาร์เลย์ บัควีท ข้าวบาร์เลย์ไฮแลนด์ ถั่วเขียว มันฝรั่ง มันเทศ ฯลฯ” 
                   • สาธารณรัฐประชาชนจีนมีการเน้นย้ำถึงการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหารระหว่างประเทศและการยกระดับการค้าอาหารระหว่างประเทศ เพื่อให้บรรลุความมั่นคงทางอาหารในประเทศ
                   • สาธารณรัฐประชาชนจีนจำเป็นต้องปรับปรุงระบบประกันภัยทางการเกษตร และส่งเสริมสู่ระดับธุรกิจประกันภัย
                   • การปกครองในระดับท้องถิ่น ระดับเทศมณฑล หรือในระดับสูงกว่า จะต้องปรับมาตรการให้เข้ากับสภาพท้องถิ่นและส่งเสริมการเพาะปลูกในที่ดินรกร้าง โดยที่ดินที่ถูกทิ้งร้างต้องมีการจัดการ และต้องมีมาตรการเพื่อเป็นแนวทางในการเพาะปลูกใหม่
                   • สาธารณรัฐประชาชนจีนต้องส่งเสริมการใช้ประโยชน์ที่ดินเค็ม-ด่าง (Saline-Alkali Soil) และกำหนดรูปแบบการใช้ที่ดินเค็ม-ด่างอย่างครอบคลุม
                   • สาธารณรัฐประชาชนจีนต้องเสริมสร้างความเข้มแข็งในการคุ้มครองสิทธิในพันธุ์พืชใหม่ 

2. โครงสร้างและบทบัญญัติสำคัญของกฎหมายความมั่นคงด้านอาหาร 
                   • กฎหมายความมั่นคงด้านอาหารของสาธารณรัฐประชาชนจีน ประกอบด้วย 11 ข้อบท 74 มาตรา ซึ่งประกอบด้วย บทบัญญัติทั่วไป การคุ้มครองที่ดินเพาะปลูก การผลิตธัญพืช การสำรองเมล็ดพืช การหมุนเวียนของเมล็ดพืช การแปรรูปธัญพืช เหตุฉุกเฉินด้านอาหาร การอนุรักษ์อาหาร การกำกับดูแลและการจัดการ ความรับผิดทางกฎหมาย และบทบัญญัติเพิ่มเติม มีประเด็นสำคัญ ดังนี้
                   1. บทบัญญัติทั่วไป
                      • สาธารณรัฐประชาชนจีนจะใช้กลยุทธ์ความมั่นคงด้านอาหารระดับชาติ โดยยึดหลักการพึ่งพาตนเอง การรับประกันการผลิตภายในประเทศ การนำเข้าในระดับปานกลาง และการสนับสนุนทางเทคโนโลยี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าอุปทานธัญพืชภายในประเทศเพียงพอต่อธัญพืชอาหารสัตว์ทั้งหมดและทำให้เกิดความมั่นคงโดยสมบูรณ์ (Absolute Security) ของเมล็ดพืชหลักที่ชาวจีนใช้บริโภค
                      • ส่วนงานในระดับเทศมณฑลและระดับที่สูงกว่านั้นของคณะกรรมมาธิการการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ กระทรวงเกษตรและกิจการชนบท และสำนักงานอาหารและปัจจัยสำรองแห่งชาติ ต้องทำงานร่วมกันในการคุ้มครองความมั่นคงด้านอาหารตามกฎหมายความมั่นคงด้านอาหารและตามหน้าที่ความรับผิดชอบที่กำหนดไว้ 
                      • สาธารณรัฐประชาชนจีนจะเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงด้านอาหารระหว่างประเทศและในระดับการค้าสินค้าอาหารนานาชาติ
                   2. การคุ้มครองที่ดินเพาะปลูก
                      • สาธารณรัฐประชาชนจีนต้องมีการควบคุมอย่างเคร่งครัดในการเปลี่ยนแปลงพื้นที่เพาะปลูกไปเป็นป่า ทุ่งหญ้า และพื้นที่เกษตรอื่น ๆ  
                      • พื้นที่เพาะปลูกต้องใช้เพื่อเพาะปลูกเมล็ดพืช ฝ้าย น้ำมัน น้ำตาล ผัก และผลผลิตทางการเกษตรอื่น ๆ เช่นเดียวกับอาหารสัตว์ 
                      • สาธารณรัฐประชาชนจีนต้องสร้างระบบการคุ้มครองคุณภาพในพื้นที่เกษตรกรรมที่เข้มงวด และเสริมสร้างการก่อสร้างพื้นที่เกษตรกรรมโดยใช้มาตรฐานระดับสูง โดยกฎหมายสนับสนุนให้มีการเพาะปลูกใหม่ในพื้นที่รกร้างและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากความเค็ม-ด่าง (Saline-Alkali)
                  3. ภาคการผลิตธัญพืช
                      • กำหนดให้สาธารณรัฐประชาชนจีนส่งเสริมการฟื้นฟูอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ รักษาความปลอดภัยของอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ และส่งเสริมการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ให้มีคุณภาพสูง
                      • สาธารณรัฐประชาชนจีนต้องส่งเสริมการจัดการทรัพยากรน้ำและรับรองการใช้น้ำอย่างเหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกธัญพืช
                      • สาธารณรัฐประชาชนจีนจะต้องส่งเสริมการใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อเพิ่มความสามารถในการป้องกันภัยพิบัติให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
                  4. การควบคุมปริมาณสำรองธัญพืช
                      • สาธารณรัฐประชาชนจีนมีหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุมปริมาณสำรองธัญพืชของรัฐบาลกลางและปริมาณสำรองธัญพืชของรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อปรับอุปสงค์/อุปทาน สร้างเสถียรภาพของตลาด และตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน
                      • สภาประชาชนแห่งชาติมีอำนาจในการกำหนดปริมาณและพันธุ์เมล็ดพืชทั้งหมดที่เก็บสำรอง รวมถึงปริมาณที่แต่ละภูมิภาคควรรักษาไว้
                      • รัฐบาลในระดับท้องถิ่น หรือสูงกว่าระดับเทศมณฑล จะต้องให้คำแนะนำแก่บริษัทแปรรูปเมล็ดธัญพืชที่มีขนาดบริษัทถึงเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร (Corporate Social Responsibility Reserves) พร้อมทั้งสนับสนุนให้องค์กรที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดสนับสนุนการจัดเก็บเมล็ดธัญพืชให้กับเกษตรกร
                  5. การไหลเวียนของเมล็ดข้าว
                      • สาธารณรัฐประชาชนจีนสามารถใช้มาตรการที่หลากหลายในการควบคุมความผันผวนของตลาด อาทิ การเปิดเผยข้อมูลตลาดธัญพืช การปรับใช้นโยบาย การจัดซื้อเมล็ดธัญพืช การจัดเก็บ และการจำหน่ายเมล็ดธัญพืชตามนโยบายการกำหนดสินค้าคงคลังเมล็ดธัญพืชภายใต้สถานการณ์เฉพาะ การปล่อยเมล็ดธัญพืชสำรอง การแนะนำการแปรรูปเมล็ดธัญพืชหรือจำกัดปริมาณเมล็ดธัญพืชที่ใช้สำหรับการแปรรูป และมาตรการที่จำเป็นอื่น ๆ
                  6. การแปรรูปธัญพืช
                      • สาธารณรัฐประชาชนจีนควรมีแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการแปรรูปธัญพืชทั้งหมด โดยให้ความสำคัญกับการแปรรูปธัญพืชเพื่อการบริโภคของมนุษย์เป็นลำดับแรก และการแปรรูปเมล็ดพืชเพื่อเป็นอาหารสัตว์และการใช้ธัญพืชในทางอุตสาหกรรม เป็นลำดับที่สอง หลังจากการแปรรูปเมล็ดพืชหลักเพื่อการบริโภคของมนุษย์นั้นเพียงพอ
                  7. สถานการณ์ด้านอาหารในภาวะฉุกเฉิน
                      • สาธารณรัฐประชาชนจีนจะต้องสร้างระบบการรายงานความผันผวนที่ผิดปกติในตลาดธัญพืช เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในตลาดแล้วสร้างความผันผวนอย่างผิดปกติต่ออุปสงค์และตลาดอุปทาน รวมทั้งราคาธัญพืช หน่วยงานที่มีอำนาจในระดับที่เท่ากันหรือสูงกว่าซึ่งรับผิดชอบด้านการพัฒนาและการปฏิรูปเกษตรกรรมและพื้นที่ชนบท คลังธัญพืชและยุทธศาสตร์จะต้องรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยทันที ทั้งนี้ หากรัฐบาลในระดับท้องถิ่นหรือระดับที่สูงกว่า พิจารณาว่ามีเหตุฉุกเฉินด้านอาหารเกิดขึ้น รัฐบาลจะต้องเริ่มดำเนินการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินนั้นๆ 
                  8. การอนุรักษ์อาหาร
                     • กำหนดให้สาธารณรัฐประชาชนจีนต้องดำเนินนโยบายการลดการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร รวมทั้งการให้ความรู้แก่สาธารณะ การลดของเสียตกค้าง และปรับปรุงมาตรฐานการจัดเก็บ การขนส่ง และการแปรรูป
                  9. การกำกับดูแลและการจัดการ
                     • สาธารณรัฐประชาชนจีนต้อง:
                       o สร้างกลไกการประสานงานในการกำกับดูแลความปลอดภัยด้านอาหาร และกลไกการแบ่งปันข้อมูล
                       o จัดให้มีระบบติดตามและเตือนภัยล่วงหน้า เพื่อสร้างเสริมความมั่นคงด้านอาหาร
                       o ดำเนินการประเมินความเสี่ยงที่ครอบคลุมและปรับปรุงกลไกการเผยแพร่ข้อมูลความมั่นคงด้านอาหาร
                       o สร้างระบบตรวจสอบย้อนกลับความปลอดภัยของคุณภาพเมล็ดธัญพืช และ
                       o ปรับปรุงระบบตรวจติดตามคุณภาพอาหารและความเสี่ยงด้านความปลอดภัย และระบบตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร
                     • หากมีการลงทุนจากต่างประเทศที่ดำเนินการผลิตธัญพืชและมีการดำเนินธุรกิจส่งผลกระทบหรืออาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ จะต้องมีการทบทวนด้านความมั่นคงของการลงทุนจากต่างประเทศตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง หมายเหตุ: กระทรวงพาณิชย์ และคณะกรรมการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติจีน จะเป็นหน่วยงานหลักในคณะกรรมการการทบทวนด้านความมั่นคง ซึ่งเป็นการดำเนินงานในลักษณะที่คล้ายคลึงกับงานของคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศ (Committee on Foreign Investment) ในประเทศสหรัฐอเมริกา
                   10. กฎหมายและความรับผิด กำหนดมาตรการบังคับใช้กฎหมายและให้อำนาจแก่รัฐบาลในระดับท้องถิ่นในการดำเนินการลงโทษทางปกครองหรือกำหนดค่าปรับสำหรับการทำละเมิด
                   11. ข้อกำหนดเพิ่มเติม ระบุนิยาม เช่น คำว่า “ธัญพืช” ให้รวมถึง ข้าวสาลี ข้าว ข้าวโพด ถั่วเหลือง ธัญพืชหยาบ และธัญพืชแปรรูป และ “ธัญพืชหยาบ” รวมถึงข้าวฟ่าง ข้าวบาร์เลย์ บัควีท ข้าวบาร์เลย์ไฮแลนด์ ถั่วเขียว มันฝรั่ง และมันเทศ นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า กฎหมายฉบับนี้ ใช้กับมาตรการคุ้มครองความมั่นคงด้านอาหารสำหรับเมล็ดพืชน้ำมัน และน้ำมันเพื่อการบริโภค

 

ที่มา : GAIN สรุปโดย : มกอช.

Is this article useful?