เมื่อวันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2566 รัฐบาลเกาหลีใต้ ระบุว่า เกาหลีใต้วางแผนที่จะห้ามการกินเนื้อสุนัขและยุติข้อขัดแย้งเกี่ยวกับประเพณีโบราณนี้ เนื่องจากความตระหนักรู้ของผู้คนเกี่ยวสิทธิสัตว์ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพฤติกรรมการกินเนื้อสุนัขของชาวเกาหลีใต้ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากต่างประเทศถึงความโหดร้ายของมัน ขณะเดียวกันเสียงคัดค้านในประเทศจากคนรุ่นใหม่ก็เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ
รัฐบาลได้กล่าวในการประชุมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสัตว์ว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะยุติความขัดแย้งและข้อถกเถียงในสังคมเกี่ยวกับการบริโภคเนื้อสุนัขด้วยร่างกฎหมายพิเศษ” โดยจะเสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภาในปีนี้ และเสริมว่าร่างกฎหมายควรผ่านรัฐสภาโดยได้รับการสนับสนุนจากทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน
ก่อนหน้านี้ร่างกฎหมายต่อต้านเนื้อสุนัขเคยล้มเหลวเนื่องจากการประท้วงของผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้ และความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของเกษตรกรและเจ้าของร้านอาหาร คำสั่งห้ามที่จะเสนอในครั้งนี้จึงกำหนดระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน 3 ปี และให้การสนับสนุนทางการเงินสำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการ
การกินเนื้อสุนัขในเกาหลีใต้มีมาอย่างยาวนาน และเป็นวิธีหนึ่งในการเอาชนะความร้อนในฤดูร้อน แต่ในปัจจุบันการกินเนื้อสุนัขน้อยกว่าเมื่อก่อนมาก แม้ว่าผู้สูงอายุบางคนจะยังคงกินเนื้อสุนัขและมีการขายในร้านอาหารบางร้านก็ตาม ข้อมูลของรัฐบาล เผยว่า มีฟาร์มสุนัขประมาณ 1,150 แห่ง โรงฆ่าสัตว์ 34 แห่ง บริษัทจำหน่ายเนื้อสุนัข 219 แห่ง และร้านอาหารที่ขายเนื้อสุนัขประมาณ 1,600 แห่ง และจากการสำรวจความคิดเห็นของ Gallup Korea เมื่อปี 2565 พบว่า มีผู้คัดค้านการกินเนื้อสุนัขถึง 64% และมีเพียง 8% เท่านั้นที่เคยกินเนื้อสุนัข ลดลงจาก 27% ในปี 2558
ที่มา : Reuters สรุปโดย : มกอช.
