ดัชนีราคาอาหารโลกของสำนักงานอาหารแห่งสหประชาชาติลดลงในเดือนตุลาคมสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี จากการปรับตัวลงของราคาน้ำตาล ธัญพืช น้ำมันพืช และเนื้อสัตว์
เมื่อวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2566 องค์กรอาหารและการเกษตร (FAO) ระบุว่า ดัชนีราคาสินค้าโภคภัณฑ์อาหารที่ซื้อขายกันทั่วโลกในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 120.6 จุด ลดลงจาก 121.3 จุดในเดือนกันยายน ซึ่งถือเป็นค่าต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564
ดัชนีราคาธัญพืชอยู่ที่ 125.0 จุด ลดลง 1.3 จุดจากเดือนกันยายน ขณะที่ดัชนีราคาข้าวสาลีระหว่างประเทศลดลง 1.9% เนื่องจากอุปทานโดยทั่วไปในสหรัฐฯ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และการแข่งขันที่รุนแรงในหมู่ผู้ส่งออก ขณะเดียวกันราคาของผลิตภัณฑ์นมนั้นสวนทางกับแนวโน้มของราคาที่ลดลง โดยดัชนีราคาผลิตภัณฑ์นมเพิ่มขึ้น 2.4 จุด มาอยู่ที่ 111.3 จุด หลังจากลดลงติดต่อกันถึง 9 เดือน ซึ่งทาง FAO เผยว่า “ราคานมผงทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุด ปัจจัยหลักมาจากความต้องการนำเข้าที่สูงขึ้น โดยเฉพาะจากเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ”
รายงานอุปสงค์และอุปทานธัญพืชของ FAO คาดการณ์การผลิตธัญพืชทั่วโลกในปีนี้ไว้ที่ 2.819 พันล้านเมตริกตัน เพิ่มขึ้น 0.9% จากปี 2565 และคาดว่าปี 2567 จะมีการปลูกข้าวสาลีฤดูหนาวทั่วทั้งซีกโลกเหนือ โดยการเติบโตของพื้นที่เพาะปลูกจะเป็นไปอย่างจำกัด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงราคาพืชผลที่อ่อนตัวลงในปีนี้
นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า ผลกระทบอย่างต่อเนื่องของสงครามยูเครน-รัสเซีย ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงพื้นที่เพาะปลูกได้อย่างจำกัดและราคาหน้าฟาร์มที่ตกต่ำ ตลอดจนสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ส่งผลให้พื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลีในยูเครนลดลง ขณะเดียวกันการดำเนินการหว่านพืชเมล็ดหยาบในปี 2567 ในซีกโลกใต้อย่างบราซิลตัวชี้วัดเบื้องต้นบ่งชี้ว่า การปลูกข้าวโพดจะลดลงประมาณ 5% เนื่องจากอัตราส่วนต้นทุนต่อราคาของถั่วเหลืองสร้างแรงจูงใจในการเพาะปลูกได้มากกว่า
ที่มา : Reuters สรุปโดย : มกอช.
