เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน 2566 องค์การสุขภาพสัตว์โลก (WOAH) เผยว่า เม็กซิโกรายงานการระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ในฟาร์มสัตว์ปีกเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ หลังจากเพิ่งประกาศว่าประเทศของตนปลอดไข้หวัดนกไปเมื่อเดือนที่แล้ว
การระบาดครั้งนี้เกิดขึ้นในรัฐ Sonora ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเม็กซิโกได้คร่าชีวิตไก่ไข่ไปจำนวน 15,000 ตัว จากทั้งหมด 90,000 ตัว โดยสัตว์ปีกที่เหลือได้ถูกกำจัดทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ยังพบการระบาดในฟาร์มอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไป 3 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยนกจำนวน 54,000 ตัว และอยู่ระหว่างการฆ่าเชื้อ
กระทรวงเกษตรของเม็กซิโกได้ดำเนินมาตรการกักกันเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไข้หวัดนกอย่างเร่งด่วน เนื่องจากรัฐบาลและอุตสาหกรรมสัตว์ปีกมีความกังวลว่าไวรัสดังกล่าวจะคร่าชีวิตฝูงสัตว์ทั่วโลกเหมือนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตสัตว์ปีกในอุตสาหกรรม ทำให้การผลิตลดลง ส่งผลให้ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้น และก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดในมนุษย์ ประกอบกับในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รัสเซีย แอฟริกาใต้ และบางพื้นที่ของยุโรปตะวันออกต่างก็มีรายงานการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกเช่นกัน
ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนที่แล้วสํานักงานแห่งชาติด้านสุขอนามัย ความปลอดภัย และคุณภาพของการเกษตรและอาหารของเม็กซิโก (Senasica) ได้ยืนยันพบเชื้อไข้หวัดนก H5N1 เป็นครั้งแรกในนกป่า หลังจากที่ประกาศว่าฟาร์มสัตว์ปีกในประเทศปลอดเชื้อเมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกัน ซึ่งก่อนหน้านี้เม็กซิโกได้รณรงค์การฉีดวัคซีนในนกขนาดใหญ่ที่อาศัยในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงรัฐ Sonora เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 โดยเม็กซิโกวางแผนจะเริ่มฉีดวัคซีนรอบใหม่ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน และเรียกร้องให้เกษตรกรในท้องถิ่นเพิ่มมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพในฟาร์มของตนและแจ้งเตือนทันทีหากพบความผิดปกติใด ๆ ในสัตว์ เพื่อปกป้องการผลิตสัตว์ปีกในประเทศ
อนึ่ง ข้อมูลจาก GAIN ของสหรัฐฯ ระบุว่า เม็กซิโกเป็น 1 ใน 10 ผู้ผลิตเนื้อไก่รายใหญ่ที่สุดของโลก แต่มีปริมาณการส่งออกไก่น้อยกว่า 1%
ที่มา : Reuters สรุปโดย : มกอช.