องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เผยว่า ดัชนีราคาอาหารโลกดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี เนื่องจากความตึงเครียดและความกังวลเกี่ยวกับการผลิตทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากการอนุญาตให้มีการส่งออกอาหารของยูเครนและตลาดน้ำมันพืช
เมื่อวันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม 2566 FAO รายงานว่า ดัชนีราคาติดตามสถานการณ์สินค้าโภคภัณฑ์อาหารที่มีการซื้อขายทั่วโลก อยู่ที่ 123.9 จุด ในเดือนกรกฎาคม 2566 เมื่อเทียบกับ 122.4 จุด ในเดือนมิถุนายน 2566 ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากเดิม โดยก่อนหน้านี้ค่าดัชนีราคาอาหารโลกในเดือนมิถุนายนเริ่มต้นที่ 122.3 ถือเป็นดัชนีที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 ซึ่งต่ำกว่าเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วเกือบ 12% และต่ำกว่าระดับสูงสุดในเดือนมีนาคม 2565 ถึง 22% ภายหลังการเริ่มต้นการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
ดัชนีราคาน้ำมันพืชเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2566 ซึ่งหยุดสถิติการลดลงของราคาน้ำมันพืช 7 เดือนติดต่อกัน ขณะที่น้ำมันดอกทานตะวันมีดัชนีราคาที่ดีดตัวขึ้นมากกว่า 15% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากความไม่แน่นอนที่เกิดจากการตัดสินใจของรัสเซียที่จะยกเลิกโครงการ Black Sea Grain Initiative เพื่ออนุญาตให้มีการขนส่งจากยูเครน อย่างไรก็ตามความกังวลเรื่องการผลิตและราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น ส่งผลให้ดัชนีราคาของน้ำมันพืชชนิดอื่น ๆ สูงขึ้น
ขณะที่ราคาของข้าวโพดนั้นได้ลดลงตามโอกาสในการเก็บเกี่ยวในอเมริกาใต้ แต่การผลิตข้าวโพดของสหรัฐอเมริกาจะช่วยเข้ามาเติมเต็มสต๊อกของข้าวโพดได้ ในทางตรงกันข้ามข้อสงสัยเกี่ยวกับการส่งออกของยูเครนและสภาพอากาศที่แห้งแล้งในอเมริกาเหนือนั้นมีส่วนให้ราคาของข้าวสาลีพุ่งสูงขึ้น และดัชนีข้าวก็พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 12 ปีหลังจากการห้ามส่งออกข้าวของอินเดีย ซึ่งทำให้เกิดข้อกังวลด้านความมั่นคงทางอาหารที่สำคัญสำหรับประชากรจำนวนมากทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มที่ยากจนที่สุด
ในส่วนของดัชนีราคาน้ำตาลมีการลดลงเกือบ 4% ในเดือนกรกฎาคม นับเป็นการลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกันจากแนวโน้มอุปทานที่ดีในบราซิลและอินเดีย ถึงแม้ว่าราคาจะสูงกว่าปีที่แล้วเกือบ 30% ก็ตาม ขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์นมและเนื้อสัตว์มีการลดลงเล็กน้อยในเดือนกรกฎาคม
ที่มา : Reuters สรุปโดย : มกอช.
