กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ (DA) เผยว่า ฟิลิปปินส์จำเป็นจะต้องมีการนำเข้าเนื้อหมูมากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนท่ามกลางการระบาดของโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกร (ASF) ในหลายส่วนของประเทศ จากข้อมูลล่าสุดของสำนักอุตสาหกรรมสัตว์ฟิลิปปินส์ (BAI) ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคมมีการนำเข้าเนื้อหมูสูงถึง 229,201 กิโลกรัม
โดยกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ (DA) ยังคงมีการจัดการนำเข้าร่วมกับภาคเอกชน เพื่อที่จะได้ทราบปริมาณที่จะต้องนำเข้าและปริมาณการผลิตทั้งหมดในท้องถิ่น ซึ่งจากข้อมูลของ DA มีการคาดการณ์ว่าการนำเข้าเนื้อหมูในปีนี้จะต่ำกว่าปีที่แล้ว และในส่วนของการประกาศสถานะภัยพิบัติสามารถทำได้ภายใต้เงื่อนไขบางประการของการแพร่ระบาดของโรค ASF เพียงเท่านั้น ขณะเดียวกันตัวแทนของพรรคการเมืองหนึ่งในฟิลิปปินส์ (Agricultural Sector Alliance of the Philippines : AGAP) ได้ผลักดันให้มีการประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติทั่วประเทศเพื่อเปิดโอกาสให้มีการจัดสรรเงินทุนสำหรับการนำเข้าวัคซีน ASF เนื่องจากโรคชนิดนี้ได้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในเขตวิซายาส หลังจากที่ได้สร้างความเสียหายในเกาะลูซอน
ทั้งนี้ ตัวแทนของ DA ได้ให้ความมั่นใจว่าทาง DA จะสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรค ASF ในวิซายาสได้ โดยมีจำนวนสัตว์ติดเชื้อที่ลดลงเมื่อเทียบกับการระบาดครั้งก่อน และการผลิตปศุสัตว์และสัตว์ปีกได้มีการขยายตัวร้อยละ 4.1 ในปี 2565 เมื่อเทียบกับปี 2564 เนื่องจากผู้เลี้ยงสุกรในเกาะลูซอนสามารถขยายพันธุ์สุกรได้ใหม่หลังจากได้รับผลกระทบจาก ASF
จากการตรวจสอบของ DA พบว่า ราคาขายปลีกของสะโพกหมูอยู่ระหว่าง 280-390 เปโซต่อกิโลกรัม (ประมาณ 177.80 - 247.65 บาทต่อกิโลกรัม) และราคาขายปลีกของหมูสามชั้นอยู่ระหว่าง 340-390 เปโซต่อกิโลกรัม (ประมาณ 215.90 - 247.65 บาทต่อกิโลกรัม)
ที่มา : The Philippine Star สรุปโดย : มกอช.