สหภาพยุโรปเตรียมชดเชยเงินกว่า 100 ล้านยูโร (ประมาณ 3,800 ล้านบาท) ให้กับเกษตรกรใน 5 ประเทศที่มีพรมแดนติดกับยูเครน และวางแผนที่จะจำกัดการนำเข้าธัญพืชจากยูเครน หลังจากสัปดาห์ที่แล้วโปแลนด์และฮังการีได้สั่งห้ามนำเข้าสินค้าจากยูเครนบางรายการ และประเทศในยุโรปตะวันออกอื่นๆ ก็กำลังพิจารณาที่จะดำเนินการในลักษณะเดียวกัน เนื่องจากผลกระทบจากการใช้เป็นทางผ่านขนส่งธัญพืชจากยูเครน ทําให้มีสินค้าหลายล้านตันติดอยู่ในประเทศ และเกษตรกรในท้องถิ่นต้องแข่งขันกับสินค้าราคาถูกจากยูเครนที่หลั่งไหลเข้ามา
โดยคณะกรรมาธิการยุโรปจะใช้มาตรการป้องกันฉุกเฉิน สำหรับข้าวสาลี ข้าวโพด เมล็ดทานตะวัน และเรพซีด หลังบัลแกเรีย ฮังการี โปแลนด์ โรมาเนีย และสโลวาเกียได้ร่วมกันร้องเรียนเมื่อเดือนมีนาคม 2566 โดยมาตรการฉุกเฉินนี้ “จะอนุญาตให้ธัญพืชจากยูเครนเข้าสู่ 5 ประเทศนี้ได้ หากเป็นการส่งผ่าน (transit) ไปยังประเทศอื่นเท่านั้น” ซึ่งมาตรการนี้จะมีผลถึงปลายเดือนมิถุนายน 2566 นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปยังมีแผนที่จะตรวจสอบความจําเป็นว่าต้องใช้มาตรการฉุกเฉินกับสินค้าที่อ่อนไหวอื่นๆ อีกหรือไม่ โดยกรรมาธิการการค้ายุโรปได้ร่วมหารือกับตัวแทนของแต่ละประเทศ และได้ขอให้บัลแกเรีย ฮังการี โปแลนด์ และสโลวาเกีย ยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้า ในขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรปอาจอนุมัติห้ามการส่งออกธัญพืชของยูเครนไปยัง 5 ประเทศที่ได้รับผลกระทบ ภายในวันที่ 5 มิถุนายน 2566 โดยมีเพียงโรมาเนียประเทศเดียวที่ไม่ได้บังคับใช้คำสั่งห้ามการนำเข้าธัญพืชจากยูเครน
ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหภาพยุโรปกับยูเครนปี 2559 การนำเข้าผลิตภัณฑ์เกษตรที่มีความอ่อนไหวสูงจากยูเครนจะต้องนำเข้าภายใต้โควตาภาษีเท่านั้น แต่หลังจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565 สหภาพยุโรปได้พิจารณาระงับการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากยูเครนจนถึงเดือนมิถุนายน 2566 และมีแผนที่จะขยายเพิ่มอีก 1 ปีด้วย
ที่มา : Reuters สรุปโดย : มกอช.
