โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) รายงานว่าการบริโภคเนื้อสัตว์ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 14% โดยการเติบโตของการบริโภคนี้จะขับเคลื่อนโดยการเติบโตของรายได้และจำนวนประชากรเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม การบริโภคเนื้อสัตว์ต่อหัวในประเทศที่มีรายได้สูงคาดว่าจะมีการลดลงเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในความต้องการของผู้บริโภคและการเติบโตของประชากรที่ช้าลง โดยภายในปี 2573 มีการคาดการณ์ว่าเนื้อไก่จะคิดเป็น 41% ของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ทั่วโลก เนื้อวัวจะคิดเป็น 20% ของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ทั่วโลก และการผลิตเนื้อวัวจะเพิ่มขึ้น 5.8% ในปี 2573 เมื่อเทียบกับปี 2561-2563
ในส่วนของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเป็นภูมิภาคเดียวที่คาดว่าจะมีการผลิตเนื้อวัวต่อหัวเพิ่มขึ้น จีนซึ่งเป็นผู้บริโภคเนื้อวัวรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก จะมีการบริโภคต่อหัวเพิ่มขึ้นประมาณ 8% แต่การบริโภคเนื้อวัวต่อหัวในอาร์เจนตินาและแคนาดามีการคาดการณ์ว่าจะลดลง 7% และในบราซิลจะลดลง 6% ในส่วนของบริเวณ
Sub-Saharan Africa คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตของการผลิตเนื้อวัวสูงสุดที่ 15% เนื่องจากมีการเติบโตของประชากรที่แข็งแกร่ง ในขณะที่โซนอเมริกาเหนือการผลิตเนื้อวัวคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6% อย่างไรก็ตามทางฝั่งยุโรปนั้นกลับพบว่าการผลิตเนื้อวัวคาดว่าจะลดลง 5%
รายงานยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าในปี 2568 ตลาดเทคโนโลยีการเกษตร (agritech) จะเพิ่มขึ้นจาก 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 เป็น 22.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการก้าวไปสู่การนำเทคโนโลยีลดการปล่อยมลพิษมาใช้ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีชีวภาพ เช่น การใช้ยาฆ่าแมลงที่น้อยลงและการไถพรวนที่น้อยลง
นอกจากนี้รายงานยังได้กล่าวเพิ่มเติมเล็กน้อยเกี่ยวกับเนื้อสัตว์ที่ทำการเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องในสาขานี้ จะส่งผลให้ต้นทุนของเนื้อสัตว์ที่เพาะเลี้ยงคาดว่าจะสามารถแข่งขันกับเนื้อสัตว์ทั่วไปได้ โดยเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงและทางเลือกอื่น ๆ คาดว่าจะลดส่วนแบ่งการตลาดของเนื้อสัตว์ทั่วไปจาก 90% ในปี 2568 เป็น 40% ภายในปี 2583
ที่มา : Agriland สรุปโดย : มกอช.
