หอยนางรมสามแหล่งในยุโรปพบโนโรไวรัสทำป่วนยกทวีป

                    ตลอดเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ฟินแลนด์พบผู้ป่วยอย่างน้อย 170 คนในเฮลซิงกิ (เมืองหลวง)  หลังจากกินหอยนางรมตามร้านอาหารต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้ป่วยในเมืองอื่น ๆ ซึ่งจากการตรวจสอบพบเชื้อโนโรไวรัส (Norovirus) ในหอยนางรม 9 ชุด โดยมี 2 ชุดมาจากเนเธอร์แลนด์ 6 ชุดมาจากฝรั่งเศส และ 1 ชุดมาจากไอร์แลนด์ โดยผู้นำเข้าได้ยกเลิกการนำเข้าชุดที่ได้รับผลกระทบออกจากตลาดแล้ว
                    โนโรไวรัส เป็นไวรัสที่พบบ่อยที่สุดจากการระบาดที่เกิดจากอาหารในฟินแลนด์ ในระหว่างปี 2560-2564 หอยนางรมทำให้เกิดการระบาดของโนโรไวรัสถึง 11 ครั้ง และมีผู้ป่วยถึง 110 คน ระยะฟักตัวของโรคที่เกิดจากโนโรไวรัสคือ 12-48 ชั่วโมง มีอาการต่าง ๆ ได้แก่ การเป็นตะคริวอย่างฉับพลัน ปวดท้อง คลื่นไส้ตามมาด้วยการอาเจียน และส่วนใหญ่มีอาการท้องร่วง โดยปกติจะใช้เวลา 12-72 ชั่วโมง และพบมากในกลุ่มอายุต่ำกว่า 5 ปี และ 65 ปีขึ้นไป ทางฟินแลนด์จึงได้เผยแพร่การแจ้งเตือน Rapid Alert System for Food and Feed (RASFF) จำนวน 4 ฉบับ เกี่ยวกับอาหารเป็นพิษเนื่องจากโนโรไวรัสในหอยนางรมตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 

                    การล้างมือด้วยสบู่และน้ำเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับไวรัสชนิดนี้ พนักงานที่ได้รับผลกระทบในอุตสาหกรรมอาหารควรหยุดงานเป็นเวลาอย่างน้อย 2 วันหลังจากหยุดแสดงอาการเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายเชื้อ โดยโนโรไวรัสสามารถติดต่อได้โดยตรงจากบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลหนึ่ง และผ่านพื้นผิว อาหาร และเครื่องดื่มที่ปนเปื้อนได้
                    ในส่วนของประเทศอื่น ๆ ในยุโรป พบว่า สวีเดนมีการแจ้งเตือน 3 ครั้งในเดือนมีนาคม 2566 โดยพบผู้ป่วยจากโนโรไวรัสจำนวน 7 ราย ในขณะที่ฝรั่งเศสมีผู้ป่วยจากโนโรไวรัสจำนวน 3 ราย และเนเธอร์แลนด์พบผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าป่วยจากโนโรไวรัสจำนวน 15 ราย ส่วนสเปนและอิตาลีก็ได้มีการแจ้งเตือน RASFF เกี่ยวกับโนโรไวรัสในหอยนางรม และในเบลเยียมได้พบผู้ป่วยจำนวน 20 รายที่ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 จากการบริโภคหอยนางรมจากฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ 
 

ที่มา : Food Safety News สรุปโดย : มกอช.