ตั้งแต่ปี 2539 เมล็ดพันธุ์พืชที่ผ่านการดัดแปรพันธุกรรมถูกนำมาใช้เชิงพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกา โดยส่วนใหญ่เป็นพืชไร่สำคัญและส่งผลให้อัตราการนำมาใช้ยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนภายในปี 2551 มากกว่า 50% ของพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพด ฝ้าย และถั่วเหลืองของสหรัฐฯ ล้วนใช้เมล็ดพันธุ์ที่ผ่านการดัดแปรพันธุกรรม กระทั่งในปัจจุบัน (2565) มากกว่า 90% ของข้าวโพด ฝ้าย และถั่วเหลืองสหรัฐฯ เพาะปลูกโดยใช้เมล็ดพันธุ์ที่ผ่านการดัดแปรพันธุกรรม
พืชดัดแปรพันธุกรรมถูกจัดจำแนกประเภทอย่างกว้างๆ ด้วยคุณสมบัติด้านความทนทานต่อสารกำจัดศัตรูพืช (HT) และความต้านทานต่อแมลงศัตรูพืช (Bt) หรือทั้งสองอย่างรวมกัน แม้ว่าจะมีการพัฒนาคุณสมบัติอื่นๆ ด้วยก็ตาม อาทิ ความต้านทานต่อไวรัสและเชื้อรา และการทนทานต่อความแห้งแล้ง โดยในสหรัฐฯ มักใช้คุณสมบัติด้านความทนทานต่อสารกำจัดศัตรูพืช และความต้านทานต่อแมลงศัตรูพืชในพืชดัดแปรพันธุกรรมเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้พื้นที่เพาะปลูกพืชจากเมล็ดพันธุ์ดัดแปรพันธุกรรมในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่แล้วจะเพาะปลูกพืชไร่สามชนิดหลัก ได้แก่ ข้าวโพด ฝ้าย และถั่วเหลือง แต่นอกเหนือจากนั้นยังมีการนำเมล็ดพันธุ์พืชดัดแปรพันธุกรรมมาใช้อย่างแพร่หลายในการเพาะปลูกอัลฟัลฟ่า คาโนลา และชูการ์บีทด้วย
ที่มา : DRGNews สรุปโดย : มกอช.
