การผลิตอาหารสัตว์ผสมในสหภาพยุโรปคาดว่าจะลดลงมากกว่า 3% ในปีนี้ เนื่องจากผลกระทบจากความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนที่ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องและปัญหาโรคระบาดสัตว์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น
องค์กรการค้า FEFAC กล่าวเมื่อช่วงต้นสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน 2565 ว่าการผลิตอาหารสัตว์ผสมจะลดลง 5 ล้านตันในปีนี้ที่ 145 ล้านตัน เนื่องจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและการแพร่กระจายของโรคอหิวาต์สุกรแอฟริกัน (ASF) และโรคไข้หวัดนก มีเพียงผู้ผลิตอาหารสัตว์ในประเทศบอลติก ไอร์แลนด์ โปแลนด์ บัลแกเรีย และสโลวีเนียเท่านั้นที่คาดว่าจะรักษาระดับการผลิตอาหารสัตว์ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
อาหารหมู
ภาคส่วนอาหารหลักทั้งหมดคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากภาคสุกรที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเนื่องจากการระบาดของ ASF และต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นทำให้เกษตรกรเลิกผลิตหรือลดขนาดการเลี้ยง โดยเฉพาะในเบลเยียม (-11%) เดนมาร์ก (-9%) เยอรมนี (-8%) และสาธารณรัฐเช็ก (-7.4%) เนื่องจากโรมาเนียและโปแลนด์ได้รับผลกระทบจาก ASF ในขณะที่เนเธอร์แลนด์และเบลเยียมอยู่ภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในการลดจำนวนสุกรเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
อาหารสัตว์ปีก
การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกทั่วสหภาพยุโรปส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อฝรั่งเศส เบลเยียม อิตาลี และฮังการี ประกอบกับต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ พลังงาน และบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ผลิตบางรายต้องเลื่อนรอบการผลิต โดยเฉพาะเกษตรกรที่เลี้ยงแบบปล่อยและแบบออร์แกนิคได้รับผลกระทบจากความต้องการของผู้บริโภคที่ลดลงสำหรับสินค้าราคาสูง และนโยบายการค้าของสหภาพยุโรปที่เสนอการเข้าถึง "ภาษีเป็นศูนย์ โควตาเป็นศูนย์" ชั่วคราวสำหรับผลิตภัณฑ์ยูเครนที่เข้าสู่สหภาพยุโรป นำไปสู่การนำเข้าเนื้อสัตว์ปีกและไข่จำนวนมากในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา
อาหารโค
แม้คาดการณ์ปริมาณจำหน่ายอาหารสัตว์ในช่วงฤดูร้อนจะเพิ่มสูงขึ้นในเบเนลักซ์ (เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก) เยอรมนี ฝรั่งเศส และยุโรปตอนใต้ เพื่อทดแทนหญ้าอาหารสัตว์และลดทอนผลกระทบจากปัญหาความแห้งแล้งที่เกิดขึ้น แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว FEFAC ให้ทรรศนะว่าเกษตรกรก็ยังคงลดฝูงสัตว์และลดระยะเวลาการรีดนมเพื่อตอบสนองต่อนโยบายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ปริมาณความต้องการอาหารสัตว์ที่แท้จริงลดลง ทั้งยังพบปัญหาผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ลดลงทั่วสหภาพยุโรปถึงร้อยละ 19
ที่มา : All About Feed สรุปโดย : มกอช.