น้ำมันโอเมก้า 3 จากสาหร่าย ได้รับอนุมัติตามกฎระเบียบข้อบังคับสหภาพยุโรปให้สามารถใช้ทดแทนโอเมก้า 3 จากเนื้อสัตว์และปลาได้ เนื่องจากมีองค์ประกอบกรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega-3 fatty acid) ชนิด DHA (Decosahexaenoic acid) และ EPA (Eicosapentaenoic acid) ซึ่งถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการเทียบเท่ากับที่พบในเนื้อสัตว์และปลา สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการรับประทานโอเมก้า 3 ชนิด DHA และ EPA จากทางเลือกอื่นที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์ และ EU ยังอนุญาตให้กล่าวอ้างสรรพคุณ เช่น มีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจ สมอง และสายตา ได้ด้วย
การวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของผลิตภัณฑ์โอเมก้า 3 ทางเลือกจากพืชในท้องตลาดครั้งนี้ ถือว่าเป็นการพัฒนาที่สำคัญของอุตสาหกรรมอาหารทางเลือกจากพืช (plant-based industry) ของสหภาพยุโรป เนื่องจากสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่หันมาสนใจสุขภาพ และเริ่มปรับเปลี่ยนแนวทางการบริโภคผลิตภัณฑ์จากพืชทดแทนเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น
ที่มา : Vegconomist สรุปโดย : มกอช.