การลดลงของผลผลิตดอกทานตะวัน เมล็ดพืชน้ำมัน และถั่วเหลืองในยูเครนเนื่องจากวิกฤติความไม่สงบในขณะนี้ ถือเป็นหัวข้อสนทนาที่สำคัญของคณะกรรมการพัฒนาการเกษตรและพืชสวน (Agriculture and Horticulture Development Board: AHDB) ช่วงต้นเดือนตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งเห็นว่า ปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลต่อพลวัตของการเกษตรในยูเครนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสมดุลของตลาดธัญพืชและตลาดเมล็ดพืชน้ำมันทั่วโลก
ยูเครนเก็บเกี่ยวธัญพืชได้น้อยลง 25% หลังจากเกิดวิกฤติ นอกจากนี้ยังพบว่าผลผลิตข้าวโพดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและราคาผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทำให้แห้งก็สูงกว่าปกติเนื่องจากข้อจำกัดของพื้นที่จัดเก็บและราคาปิโตรเลียมโดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ผลผลิตฤดูกาลปลูก 2566 ก็อาจเปลี่ยนแปลงโครงสร้างจากเดิม โดยเรพซีดอาจเพิ่มขึ้น ในขณะที่ข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์อาจลดลงถึงร้อยละ 25-30
นักวิเคราะห์อาวุโสด้านธัญพืชและเมล็ดพืชน้ำมันของ AHDB กล่าวว่าสงครามส่งผลกระทบต่อตลาดทั่วโลก เช่น สหราชอาณาจักรที่เป็นผู้นำเข้าสุทธิของเรพซีดเพื่อเติมเต็มส่วนต่างความต้องการบริโภคในประเทศถึงประมาณ 8 แสนตันต่อปี และหันมานำเข้าจากยูเครนตั้งแต่ปี 2561 อาจจะต้องเปลี่ยนเป้าหมายการนำเข้าบางส่วนจากประเทศในสหภาพยุโรป เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี และสเปน และแม้ว่าสต็อกเรพซีดทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น แต่ปัจจัยผลกระทบจากพืชน้ำมันทดแทนอื่นๆ เช่น ถั่วเหลือง จะส่งผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ต่อราคาในตลาดโลก รวมทั้งจากการที่ประเทศผู้ผลิตสำคัญรายใหญ่หลายแห่ง เช่น อาร์เจนตินาและบราซิลมีแนวโน้มจะเก็บเกี่ยวธัญพืชหลายชนิดได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของยูเครนในระยะยาวได้
ที่มา : UkrAgroConsult สรุปโดย : มกอช.