เกษตรกรในสหรัฐอเมริกาเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงท่าทีตอบโต้คำสั่งแบนข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรม (GM) ของเม็กซิโก เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 ประธานาธิบดีเม็กซิโกได้ประกาศกฤษฎีกาเตรียมเลิกใช้ข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรมและสารกำจัดวัชพืชไกลโฟเสตภายในปี 2567 เนื่องจากมีข้อกังวลต่อการปนเปื้อนพันธุกรรมกับข้าวโพดพันธุ์พื้นเมือง และความกังวลต่อผลข้างเคียงจากการใช้ไกลโฟเสต แต่ในขณะเดียวกัน ในส่วนของการนำเข้าข้าวโพดสำหรับเป็นอาหารสัตว์ที่มีสัดส่วนร้อยละ 80 ของการนำเข้าจากสหรัฐฯ อาจมีท่าทีที่แตกต่างกัน และยังมีความไม่ชัดเจนว่าจะได้รับผลกระทบจากกฤษฎีกาข้างต้นหรือไม่
ตั้งแต่ปี 2561 COFEPRIS ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านสุขภาพของเม็กซิโกไม่อนุญาตให้นำเข้าเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรมทนไกลโฟเสตสายพันธุ์ใหม่ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งส่งผลให้สมาคมผู้ปลูกข้าวโพดแห่งสหรัฐฯ เรียกร้องต่อสำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ (USTR) เริ่มดำเนินกระบวนการระงับข้อพิพาท (Dispute Settlement) ภายใต้ข้อตกลงทางการค้าเสรีอเมริกาเหนือหรือ USMCA ภายใต้ข้อบทด้านการเกษตร
ทั้งนี้ สถานการณ์ล่าสุดยังไม่ได้รับรายงานหรือแถลงท่าทีเพิ่มเติมจากทั้งฝั่งกระทรวงเกษตรของเม็กซิโกและสถานทูตสหรัฐฯ ในเม็กซิโก นอกเหนือจากแถลงการณ์ของ COFEPRIS ที่ระบุผลการตัดสินใจของ COFEPRIS อยู่บนพื้นฐานของ “หลักฐานทางวิทยาศาสตร์และการประเมินความเสี่ยง”
ที่มา : Reuters สรุปโดย : มกอช.
