ก่อนหน้าปี 2561 อินเดียต้องเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาวะเงินเฟ้อ พืชผลทางการเกษตรมีราคาสูงขึ้น รวมถึงภาวะขาดความมั่นคงทางอาหารภายในประเทศ แม้ว่าอินเดียจะเป็นประเทศที่พึ่งพาการนำเข้าถั่วลันเตาจากต่างประเทศเป็นหลัก แต่ในช่วงเวลานั้นสต็อกสินค้าถั่วลันเตาภายในประเทศอินเดียไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ส่งผลให้ในช่วงนั้นราคาถั่วลันเตาในอินเดียพุ่งสูงขึ้นเป็นสามเท่า มีราคาถึง 140 รูปีต่อกิโลกรัม
ต่อมาในปี 2561 ทางรัฐบาลอินเดียจึงได้ตัดสินใจประกาศใช้นโยบายกำหนดโควตาการนำเข้าและเพิ่มภาษีนำเข้าถั่วลันเตาที่จะนำเข้ามายังอินเดีย โดยหวังว่าจะช่วยสร้างสมดุลราคาถั่วลันเตาภายในประเทศ และเพิ่มความมั่นคงทางด้านอาหารโดยการเพิ่มปริมาณผลผลิตภายในประเทศให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ รวมไปถึงการเพิ่มรายได้ของเกษตรกรภายในประเทศของอินเดียเองด้วย ซึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในขณะนั้นคือ แคนาดา เนื่องจากแคนาดาเป็นประเทศผู้ส่งออกถั่วรายใหญ่ที่สุดทั้งของอินเดียและของโลก โดยแคนาดาส่งออกถั่วลันเตาคิดเป็นครึ่งหนึ่งของผลผลิตที่ซื้อขายทั้งหมดในตลาดอินเดีย
ทั้งนี้ จากข้อจำกัดทั้งปริมาณโควตาที่อนุญาตให้นำเข้า และการเรียกเก็บภาษีที่นำเข้าเพิ่มขึ้น ทำให้แคนาดาต้องมองหาตลาดคู่ค้ารายใหม่ กระทั่งพบว่าจีนมีความต้องการถั่วลันเตาค่อนข้างสูงและกลายเป็นคู่ค้าสำคัญรายใหม่ และอินเดียจำเป็นต้องพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตถั่วภายในประเทศ จนกระทั่งเริ่มประสบความสำเร็จชัดเจนในปี2564เเละในปี 2565 มีผลผลิตทั่วประเทศถึง 800,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 กว่าเท่าตัว ทั้งยังคาดว่าจะมีผลผลิตมากพอส่งออกได้ภายในปี 2566
ที่มา : UkrAgroConsult สรุปโดย : มกอช.