นักวิจัยออสซีชี้เป้ากลุ่มอาหารที่ควรลดโซเดียม

                การปรับพฤติกรรมการบริโภคของประชาชนเพื่อลดการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น ความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ โดยกำหนดแนวทางให้ผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปจัดจำหน่ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสุขภาพผู้บริโภคมากขึ้นนั้น เป็นแนวทางที่หลาย ๆ ประเทศ ซึ่งประสบปัญหาประชากรเป็นโรคกลุ่ม NCDs กำลังเร่งประกาศมาตรการรองรับในปัจจุบัน หนึ่งในนั้นคือการตั้งเป้าหมายลดปริมาณโซเดียมซึ่งส่วนใหญ่ได้รับจากเกลือบริโภค (โซเดียมคลอไรด์) ในอาหาร และจำเป็นที่แต่ละประเทศจะต้องศึกษาพฤติกรรมการบริโภคเพื่อให้สามารถกำหนดข้อมูลแนะนำการบริโภคและมาตรการที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคข้างต้น
                ล่าสุด นักวิจัยของออสเตรเลียได้ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศเพื่อกำหนดกลุ่มอาหารเป้าหมายที่ควรกำหนดให้ปรับสูตรลดปริมาณโซเดียม และพบว่ากลุ่มอาหารที่เป็นแหล่งโซเดียมที่สำคัญ ได้แก่ ขนมปัง ชีส และเนื้อแปรรูป เช่น ไส้กรอกและเบคอน ซึ่งนักวิจัยได้เสนอให้ควรกำหนดให้อาหารกลุ่มเหล่านี้เป็นเป้าหมายปรับสูตรลดโซเดียมในลำดับแรก
                งานวิจัยดังกล่าวพบอีกว่าปัจจุบันชาวออสเตรเลียได้รับโซเดียมจากการบริโภคถึงวันละ 3,500 มิลลิกรัม ซึ่งมากเกือบสองเท่าของปริมาณที่แนะนำต่อวันที่ระดับ 2,000 มิลลิกรัม และยังพบว่าการบรรลุเป้าหมายปรับสูตรอาหารลดโซเดียมของออสเตรเลียนั้นอยู่ในระดับต่ำเพราะครอบคลุมถึงอาหารหลายกลุ่มที่สูตรเดิมมีปริมาณโซเดียมตามเป้าหมายอยู่แล้ว และออสเตรเลียอาจพิจารณาประกาศใช้มาตรการรูปแบบเดียวกับสหราชอาณาจักรต่อไป ทั้งนี้สามารถติดตามงานวิจัยฉบับเต็มได้ใน https://nutrition.bmj.com/content/early/2021/01/11/bmjnph-2020-000173

ที่มา : https://www.foodnavigator.com/ สรุปโดย : มกอช.