นอกจากวิกฤตการณ์โควิด-19 และสภาพเศรษฐกิจที่กำลังซบเซาลงในหลายพื้นที่ของโลก ภาวะโลกร้อนก็ยังเป็นอีกหนึ่งในวิกฤตการณ์สากลที่ยังคงส่งผลกระทบและทวีความรุนแรงขึ้นอยู่ทุกขณะ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตหลายชนิด รวมทั้งการทำเกษตรกรรมด้วย
ในแทนซาเนีย ประเทศบนชายฝั่งทางตะวันออกของทวีปแอฟริกา มีกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านที่ทำการประมงชายฝั่ง ซึ่งที่ผ่านมาประกอบอาชีพเก็บสาหร่ายทะเลจำหน่าย แต่ด้วยภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศทำให้สาหร่ายที่เคยเก็บเกี่ยวได้เติบโตช้าลง ทั้งเป็นโรคจากเชื้อแบคทีเรียง่ายขึ้น ส่งผลให้ชาวประมงต้องเก็บเกี่ยวสาหร่ายในพื้นที่น้ำลึกห่างชายฝั่งที่อุณหภูมิเย็นกว่าและเหมาะกับการเจริญเติบโตของสาหร่าย ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงและต้นทุนของชาวประมง ล่าสุด FAO ได้จัดอบรมให้ชาวประมงพื้นบ้านสามารถเลี้ยงปลิงทะเลในบริเวณชายฝั่งเพื่อเสริมสร้างรายได้ เพราะปลิงทะเลแห้งเป็นสินค้าที่ขายได้ราคาสูงในตลาดเอเซีย นอกจากนั้นปลิงทะเลยังเป็นที่สนใจในการวิจัยเกี่ยวกับจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อทางเดินอาหาร ทั้งยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่สำคัญในการเสริมสร้างระบบนิเวศทางทะเลด้วย
ภาวะโลกร้อนเป็นวิกฤตการณ์หนึ่งที่ส่งผลกระทบไปทั่วทั้งโลก ซึ่งกิจการเกษตรและประมงของไทยเองก็คงยากจะหลีกเลี่ยงผลกระทบบางประการ เกษตรกรและชาวประมง ตลอดจนผู้ประกอบการไทยเองจึงควรศึกษาติดตามแนวโน้มและความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น แล้ววางแผน ปรับตัว เพื่อเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงให้ได้อย่างรอบด้าน
ที่มา : https://www.un.org/ สรุปโดย : มกอช.
