ปลาทูน่าเป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่สำคัญ มีอยู่หลายชนิดและได้รับความนิยมต่อการบริโภคทั่วโลกในหลายรูปแบบ เช่น ทูน่าสด ทูน่าแช่แข็งสำหรับปรุงอาหาร และทูน่ากระป๋อง เป็นต้น ปลาทูน่าสามารถจับได้ในหลาย ๆ มหาสมุทร ทั้งยังมีอุตสาหกรรมทำประมงและแปรรูปปลาทูน่าในประเทศต่าง ๆ รวมไปถึงจีนและเวียดนามด้วย
สำหรับเวียดนามแล้ว ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมปลาทูน่าพึ่งพาการส่งออกไปยังภูมิภาคยุโรปและอเมริกาเป็นส่วนมาก โดยมักเป็นในรูปทูน่าสดและแช่แข็ง (ดังปรากฏในข่าวก่อนหน้า: https://warning.acfs.go.th/th/early-warning/view/?page=6983) เพื่อประกอบอาหารและจัดจำหน่ายให้กับกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้สูงในประเทศปลายทาง แต่วิกฤตการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ทำให้ห่วงโซ่อุปทานส่งออกของผลิตภัณฑ์ทูน่าต้องหยุดชะงัก ตั้งแต่การขนส่งที่ยากลำบากขึ้น การปิดบริการและยอดขายที่ลดต่ำลงของร้านอาหาร จนถึงรายได้ของผู้บริโภคที่ลดลงจากสภาพเศรษฐกิจและการว่างงาน ประกอบกับภาวะการแพร่ระบาดที่ยังคงอยู่ในประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ทำให้ผู้ประกอบการส่งออกผลิตภัณฑ์ทูน่าของเวียดนามประสบปัญหาการขายสินค้า ในขณะที่ยังต้องแบกรับภาระต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ทางสมาคมผู้ประกอบการแปรรูปและส่งออกอาหารทะเลเวียดนามจึงแนะนำว่าผู้ประกอบการควรพลิกวิกฤตินี้ให้เป็นโอกาสในการพัฒนาตลาดในประเทศ ซึ่งกำลังเติบโตแทน โดยเฉพาะเมื่อเวียดนามสามารถควบคุมโควิด-19 ได้แล้วในขณะนี้
สำหรับประเทศไทยแล้วผลิตภัณฑ์ทูน่าส่งออกส่วนใหญ่อาจเป็นทูน่ากระป๋อง ที่มุ่งผู้บริโภคคนละกลุ่มกันและอาจได้รับผลกระทบต่างไปจากอุตสาหกรรมทูน่าของเวียดนาม แต่มุมมองข้อแนะนำของสมาคมผู้ประกอบการเวียดนามในการพัฒนาตลาดผู้บริโภคในประเทศเพื่อรองรับการผลิตยังคงน่าสนใจ และผู้ประกอบการไทยเองก็ควรใช้แนวคิดดังกล่าวเพื่อรักษารายได้หากเกิดปัญหาในการส่งออก ตลอดจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และระบบการผลิต โดยเฉพาะระบบคุณภาพเพื่อให้ได้มาตรฐานและความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคทุกระดับทั้งในและต่างประเทศ
ที่มา : https://vietnamnews.vn/ สรุปโดย : มกอช.