เชื้อซาลโมเนลลา (Salmonella spp.) เป็นแบคทีเรียที่สามารถติดมากับอาหาร หรือรับเข้าสู่ร่างกายผ่านทางปาก ทำให้เกิดอาการท้องร่วงรุนแรง ปวดเกร็งท้อง และเป็นไข้ โดยอาการจะเกิดใน 12 ถึง 72 ชั่วโมงหลังรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย อาการเหล่านี้สามารถรุนแรงมากถึงต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยกลุ่มที่ร่างกายไม่แข็งแรง เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ
กรมควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้ออกรายงานล่าสุดว่า พบผู้ป่วยจากการติดเชื้อซาลโมเนลลาถึง 97 ราย ในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดย 17 ราย ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต และพบว่าเป็นกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ถึง 30% โดยสามารถเชื่อมโยงได้กับการสัมผัสใกล้ชิดกับลูกไก่และลูกเป็ดที่เลี้ยงในบริเวณบ้าน ซึ่งมีแหล่งที่มาหลากหลาย ทั้งร้านค้าทางการเกษตร โรงฟักไข่ และผ่านทางเว็บไซต์ขายออนไลน์ ทั้งนี้ในปี 2019 ก็มีรายงานการติดเชื้อจากเหตุลักษณะนี้เช่นกัน CDC จึงได้ออกคำเตือนเพื่อความปลอดภัยแก่ประชาชนที่มีสัตว์ปีกอยู่ในบริเวณบ้าน ให้ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นสูงกว่า 60% ทุกครั้งที่สัมผัสกับสัตว์ปีก และห้ามให้สัตว์ปีกเข้าไปในตัวบ้าน โดยเฉพาะบริเวณประกอบอาหาร หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบริเวณที่อาจปนเปื้อนเชื้อจากสัตว์ปีกโดยเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าบริเวณและทำความสะอาดอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์นอกตัวบ้าน ตลอดจนหลีกเลี่ยงการให้เด็กเล็กสัมผัสสัตว์ปีกนอกการดูแล โดยเฉพาะการใช้มือสัมผัสสัตว์แล้วเข้าปากหรือสัมผัสใบหน้า เพราะแม้สัตว์จะดูแข็งแรงดีก็อาจเป็นพาหะนำโรคได้
ในประเทศไทยก็มีการเลี้ยงสัตว์ปีกในบริเวณที่พักอาศัยเช่นเดียวกัน ผู้เลี้ยงจึงควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและเพิ่มความระมัดระวังในการเลี้ยง ปฏิบัติตามแนวทางคำแนะนำของ CDC ข้างต้น โดยเฉพาะสำหรับบ้านผู้เลี้ยงที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอาการรุนแรงหากได้รับเชื้อซาลโมเนลลา
ที่มา : https://www.foodsafetynews.com/ สรุปโดย : มกอช.
