ASF หรือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever) เป็นโรคติดเชื้อจากไวรัสในสุกร ซึ่งติดต่อได้หลายทาง เช่นผ่านสารคัดหลั่งและการสัมผัสกันของสุกร จนถึงเนื้อสุกรที่ติดเชื้อ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่สัมผัสกับสุกร จึงนับว่าเป็นโรคที่สามารถติดต่อได้ง่ายมาก และทำให้เกิดการป่วยและตายของสุกรอย่างรุนแรง ทำให้ประเทศต่าง ๆ ต้องตื่นตัวระมัดระวังป้องกันอุตสาหกรรมสุกรในประเทศของตนจากการติดโรคดังกล่าว และหากพื้นที่ใดมีการระบาดก็จะทำให้ไม่สามารถส่งออกสุกรและเนื้อสุกรได้
หลังจาก มกอช. ได้รายงานข่าวการควบคุมโรคดังกล่าวในนามิเบียไปแล้วใน https://warning.acfs.go.th/th/early-warning/view/?page=6998 ล่าสุดได้พบรายงานข่าวจากประเทศเวียดนามว่ามีการระบาดครั้งใหม่ของโรค ASF อีกครั้งหนึ่ง โดยการแพร่ระบาดเกิดในพื้นที่ต่าง ๆ รวม 155 คอมมูน ในฮานอยและอีก 19 จังหวัดของประเทศ ส่งผลให้ต้องทำลายสุกรไปแล้วกว่า 4,000 ตัว หลังพบการระบาด และต้องติดตามการระบาดต่อไปอีกจนกว่าจะไม่พบการระบาดแล้วอย่างน้อย 30 วัน ทั้งนี้เวียดนามพบการระบาดของโรคดังกล่าวครั้งแรกเมื่อปี 2019 ในพื้นที่ 63 เมือง และต้องทำลายสุกรไปกว่า 6,000,000 ตัว หรือคิดเป็น 20% ของสุกรในประเทศ สำหรับการระบาดใหม่ครั้งนี้ทางกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนามชี้ว่าเกิดจากการซื้อพันธุ์สุกรไม่ได้มาตรฐานสุขอนามัยสัตว์มาเลี้ยงของเกษตรกรรายย่อย นำมาเลี้ยงอย่างไม่ถูกหลักสุขอนามัย แล้วจำหน่ายสุกรป่วยโดยไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่รัฐทราบ ตลอดจนปัญหาการมีบุคลากรควบคุมดูแลด้านปศุสัตว์ที่ไม่เพียงพอ
การระบาดในเวียดนามครั้งนี้นับได้ว่าเป็นอีกครั้งที่เกิดขึ้นใกล้ประเทศไทย และถือเป็นความเสี่ยงต่ออุตสาหกรรมสุกรในประเทศไทย แม้ว่าผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในไทยจะเข้มแข็งและเข้มงวดในการดูแลป้องกันการระบาดไม่ให้เข้าสู่ประเทศไทยได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด แต่ก็ไม่ควรประมาทและควรรักษาระดับการเฝ้าระวังให้ดีต่อไป เกษตรกรไทยไม่ควรซื้อพันธุ์สุกรจากแหล่งที่ไม่มีที่มาชัดเจน แล้วต้องดูแลจัดการฟาร์มตามหลักสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด ตลอดจนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ทราบทันทีหากพบสุกรป่วยหรือมีอาการผิดปกติ
ที่มา : https://e.vnexpress.net/ สรุปโดย : มกอช.