สวิตเซอร์แลนด์พบผู้ป่วยอย่างน้อย 11 คน จาก 7 รัฐ ป่วยด้วยโรคติดเชื้อ Listeriosis ซึ่งเกิดจากการบริโภคชีสจากบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ที่ปนเปื้อนเชื้อ Listeria monocytogenes โดยผู้ป่วยมีอายุระหว่าง 66 –86 ปี
บริษัทผู้ผลิตชีสได้ตรวจพบเชื้อ Listeria monocytogenes ในชีสกึ่งแข็งเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา จึงได้เรียกคืนสินค้าและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้จำหน่ายปลีกนำสินค้าออกจากชั้นวาง นอกจากนี้ยังพบว่ามีการจำหน่ายชีสไปยังเบลเยียมและเยอรมนี โดยหน่วยงานด้านความปลอดภัยของอาหารและสัตว์ของสวิตเซอร์แลนด์ (FSVO) ยังคงอยู่ในระหว่างตรวจสอบว่าผู้ติดเชื้ออีก 10 รายมีความเกี่ยวข้องกับการระบาดของเชื้อ จากที่ช่วงต้นปี 2563 มีการรายงานผู้ป่วยแล้วถึง 28 ราย
ข้อมูลในช่วงวันที่ 30 มีนาคม-2 พฤษภาคม 2563 จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์วินิจฉัยว่ามีผู้ป่วยโรค Listeriosis ทั้งสิ้น 4 คน คาดอาจป่วยจากการบริโภคชีสแบรนด์ Käserei Vogel เมื่อเข้ารับการรักษา แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นชนิดเดียวกับที่ถูกเรียกคืนหรือไม่ ขณะนี้หายป่วยทั้งสิ้น 3 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ทั้งนี้ อาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ Listeria monocytogenes อาจแยกแยะกลิ่นหรือลักษณะทางกายภาพได้ยาก และหากบริโภคเข้าไปอาจก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีไข้เรื้อรัง และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อขั้นรุนแรง ทั้งยังเป็นอันตรายต่อคนท้อง คนแก่ และเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่นผู้ป่วยมะเร็งเป็นต้น โดยในคนท้องอาจมีอาการคล้ายเป็นหวัด ซึ่งการติดเชื้ออาจทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด หรือแท้ง รวมทั้งพบว่าเชื้อดังกล่าวอาจมีระยะฟักตัวได้นานสูงสุดถึง 70 วัน
ที่มา : https://www.foodsafetynews.com/2020/05/more-patients-reported-in-listeria-outbreak-linked-to-cheese/ สรุปโดย : มกอช.