เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง ของญี่ปุ่นได้ออกรายงานการตรวจการใช้เคมีเกษตรและสารตกค้างภายในประเทศ เก็บข้อมูลเมื่อปี 2018 พบว่าครัวเรือนเกษตรกรที่สำรวจทั้งสิ้น 476 ครัวเรือน มีการใช้เคมีเกษตรรวมทั้งสิ้น 4,878 ครั้ง พบการใช้เคมีเกษตรอย่างไม่ถูกต้อง 1 ครัวเรือน เป็นการใช้เคมีเกษตรในปริมาณไม่เหมาะสม ไม่พบการใช้เคมีเกษตรผิดชนิดพืช ตลอดจนถึงการใช้เคมีเกษตรผิดช่วงเวลา หรือจำนวนครั้งที่ไม่เหมาะสม
โดยครัวเรือนเกษตรที่พบการใช้เคมีเกษตรปริมาณไม่เหมาะสมนั้นพบในผลผลิต 2 ชนิดคือผักกาดเขียวโคะมัทสึนะ และแคร์รอต ในผักกาดเขียวโคะมัทสึนะพบสาร Diazinon ตกค้าง 0.5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม สูงกว่ามาตรฐานที่ 0.1 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งคาดว่าเกิดจากการตวงสารที่ไม่แม่นยำทำให้เกิดการใช้มากเกินไป ส่วนในแครอทพบสารกำจัดศัตรูพืช Imisiaphos ตกค้าง 0.06 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานที่ 0.03 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม โดยสารดังกล่าวใช้ใส่ในดินเพื่อกำจัดศัตรูพืชในดิน จึงคาดว่าตกค้างอยู่จากส่วนที่ละลายไม่หมดในฤดูเพาะปลูกที่แล้ว ซึ่งฝนตกน้อยกว่าปกติ เมื่อเติมสารเข้าใหม่ในฤดูเพาะปลูกจึงทำให้ความเข้มข้นมากเกินไป
ตัวอย่างจากประเทศญี่ปุ่นดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงความพยายามกำกับดูแลของภาครัฐ ตลอดจนเป็นตัวอย่างการใช้เคมีเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อม ซึ่งเป็นเรื่องควรพิจารณาในการกำกับดูแลการใช้สารเคมีทางการเกษตรที่ภาครัฐควรให้ความสำคัญ
ที่มา : https://www.shokukanken.com/ สรุปโดย : มกอช.