ภายใต้วิกฤตการณ์ COVID-19 ที่เป็นปัญหาสำคัญของทั้งโลกในขณะนี้นั้น หลายประเทศใช้มาตรการลดการเคลื่อนย้ายผู้คน ให้ประชาชนอยู่แต่ในเคหสถานและทำงานจากที่บ้าน สหรัฐอเมริกาก็เป็นอีกประเทศที่ใช้มาตรการดังกล่าว และมาตรการนั้นยังรวมไปถึงเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ของรัฐ และเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยของอาหารด้วยเช่นกัน
ในทางกลับกันรัฐบาลแคนาดาพึ่งอนุมัติงบประมาณ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับหน่วยตรวจสอบอาหารแคนาดา (Canadian Food Inspection Agency: CFIA) ในการฝึกอบรม จ้างบุคลากร และจัดซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นในการตรวจสอบความปลอดภัยของอาหารต่อไปในสถานการเช่นนี้ ซึ่งรวมไปถึงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมในส่วนท้องถิ่นด้วย ทั้งนี้ในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมารัฐบาลแคนาดาเพิ่งมอบนโยบายให้ผู้ตรวจสอบอาหารทั้งระดับชาติและท้องถิ่นทำงานร่วมกันในการใช้แนวทางปฏิบัติเพื่อให้สถานประกอบการแปรรูปเนื้อสัตว์กลับมาเปิดดำเนินการได้หลังจากปิดเมื่อพบพนักงานติดเชื้อ COVID-19 โดยทั้งนี้ รูปแบบการผลิตในโรงงานแปรรูปอาหารแบบเดิม นั้นไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล การดำเนินการจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบรัดกุมขึ้น
ทางด้าน FDA ของสหรัฐอเมริกาชี้แจงว่า เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อของผู้ตรวจสอบจึงให้งดการตรวจสอบประจำทั้งแหล่งผลิตในประเทศและในต่างประเทศที่นำเข้ายังสหรัฐฯ แต่การตรวจสอบในกรณีของการเจ็บป่วยจากอาหารปนเปื้อนหรือการเรียกคืนสินค้าระดับ 1 ยังดำเนินการตามปกติ ทั้งนี้ระบบการตรวจสอบควบคุมคุณภาพของสหรัฐฯ โดยปกติทำให้ผู้ผลิตต้องควบคุมดูแลคุณภาพและความปลอดภัย ตลอดจนป้องกันความเสี่ยงในทุก ๆ ขั้นตอนอยู่แล้ว ในภาวะวิกฤติเช่นนี้จึงเป็นหน้าที่ของผู้ผลิตที่จะต้องเพิ่มความเข้มงวดในการทำให้อาหารมีคุณภาพและความปลอดภัย
ที่มา : https://www.foodsafetynews.com/ สรุปโดย : มกอช.
